'เกาหลีใต้' จ่อสืบสวนการละเมิดสิทธิชาวเกาหลี หลังสหรัฐบุกจับแรงงานโรงงานฮุนได

'เกาหลีใต้' จ่อสืบสวนการละเมิดสิทธิชาวเกาหลี หลังสหรัฐบุกจับแรงงานโรงงานฮุนได

รัฐบาลเกาหลีใต้ เตรียมสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวเกาหลี หลังสหรัฐบุกจับแรงงานโรงงานฮุนไดในรัฐจอร์เจีย ซึ่งมีภาพเผยให้เห็นแรงงานถูกล่ามโซ่

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐบุกค้นและจับกุมแรงงานเกาหลีในโรงงานแบตเตอรี่ฮุนไดในรัฐจอร์เจีย

โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงในวันจันทร์ (15 ก.ย.) ว่า เกาหลีใต้ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อสหรัฐและได้ขอไม่ให้ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์ของพลเมืองเกาหลีใต้ในระหว่างการดำเนินงานบังคับใช้กฎหมาย

โฆษกกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้จะทำงานร่วมกับบริษัทที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นหรือปัญหาในด้านอื่นๆ

ขณะนี้บีบีซีกำลังรอความเห็นจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (ICE)

ทั้งนี้ แรงงานเกาหลี กว่า 300 คน เดินทางกลับถึงบ้านแล้วเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ย.) หลังถูกจับกุมราว 1 สัปดาห์

เหตุการณ์บุกจับแรงงานเกาหลีใต้ครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ขณะที่ธุรกิจเกาหลีใต้จ่อลงทุนในสหรัฐหลายพันล้านดอลลาร์ภายใต้ข้อตกลงการค้าที่บรรลุร่วมกัน เพื่อหลักเลี่ยงภาษีสหรัฐที่สูงลิ่ว

รอยเตอร์สระบุ การบุกจับแรงงานเกาหลีได้สร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้มากขึ้น และประธานาธิบดีอี แจ-มยอง เตือนว่า ปฏิบัติการดังกล่าวอาจทำให้การลงทุนของเกาหลีใต้ในสหรัฐลดลง เนื่องจากมีภาพที่เผยให้เห็นแรงงานถูกล่ามโซ่ขณะจับกุม

ปธน.อียังได้เรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ “น่าสับสน” และเสริมว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทเกาหลีจะส่งคนงานไปช่วยติดตั้งระบบต่างๆ ในโรงงานต่างประเทศ

เมื่อสัปดาห์ก่อน ฮุนไดประกาศว่า การเปิดตัวโรงงานดังกล่าวอาจล่าช้าไปอีกอย่างน้อย 2 เดือนขณะที่สหภาพการค้าเกาหลีใต้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ

อนึ่ง การบุกค้นและตรวจสอบโรงงานฮุนไดในจอร์เจียเมื่อวันที่ 4 ก.ย. นั้น มีคนถูกจับกุม 475 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนสัญชาติเกาหลีใต้ และถือเป็นการบุกจับผู้อพยพครั้งใหญ่สุดในสถานที่แห่งเดียว นับตั้งแต่ทรัมป์สั่งปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายเมื่อต้นปี

ด้าน ICE เผยว่า แรงงานชาวเกาหลีอยู่ในสหรัฐเกินกว่าที่วีซ่ากำหนด หรือไม่มีใบอนุญาติทำงานสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยืนยันว่า สหรัฐต้อนรับแรงงานต่างชาติ และเขาไม่ต้องการทำให้นักลงทุนหวาดกลัว ทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลเมื่อวันอาทิตย์ (14 ก.ย.)ว่า สหรัฐต้องการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในหลายด้าน เช่น การต่อเรือ การสร้างชิป และคอมพิวติง