‘Black Rock Coffee Bar’ ระดมทุน เสนอขายหุ้น IPO ได้เกือบ 300 ล้าน

Black Rock Coffee Bar ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ได้กว่า 294.1 ล้านดอลลาร์ โดยขายหุ้น 14.7 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
KEY
POINTS
- Black Rock Coffee Bar ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO ได้กว่า 294.1 ล้านดอลลาร์ โดยขายหุ้น 14.7 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
- การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 956.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)
- แม้บริษัทจะมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 2 แต่รายได้สุทธิและยอดขายจากสาขาเดิมเติบโตขึ้นกว่า 10.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- บริษัทมีแผนจะใช้เงินทุนเพื่อขยายสาขาเพิ่มอีก 30 แห่งในปี 2025 และตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะมีสาขาทั้งหมด 1,000 แห่งภายในปี 2035
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัท Black Rock Coffee Bar ผู้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายร้านกาแฟแบบไดรฟ์ทรู ได้ระดมทุนกว่า 294.1 ล้านดอลลาร์ ในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นสหรัฐด้วยราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
จากแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี 11 ก.ย. ที่ผ่านมา Black Rock Coffee Bar จากเมืองสกอตส์เดล รัฐแอริโซนา ได้เสนอขายหุ้นจำนวน 14.7 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์ให้ประชาชนเป็นครั้งแรก โดยบริษัทได้เสนอขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดที่คาดการณ์ไว้อยู่เพียง 16-18 ดอลลาร์ โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Wellington Management ระบุว่าสนใจซื้อหุ้นมากถึง 30 ล้านดอลลาร์ ในการระดมทุนครั้งนี้
ในปัจจุบัน บริษัทดังกล่าวมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 956.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยพิจารณาจากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว (share outstandings) คูณด้วยราคาที่ได้มีการเสนอขาย (IPO price) ซึ่งระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)
เอกสารดังกล่าวระบุว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.1 ล้านดอลลาร์ จากรายได้สุทธิที่ 50.4 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 โดยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5.22 แสนดอลลาร์จากรายได้ 40.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้สะท้อนอัตราการเติบโตของธุรกิจผ่านรายได้สุทธิ และการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้นกว่า 10.9%
ทั้งนี้นักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นมากกว่า 5% ประกอบไปด้วยบริษัทด้านการลงทุนอย่าง Cynosure Group ซึ่งได้เริ่มลงทุนใน Black Rock Coffee ตั้งแต่ปี 2020 รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือของผู้ร่วมก่อตั้ง Black Rock Coffee Bar ทั้งสี่คน
Black Rock Coffee ก่อตั้งขึ้นที่เมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน ในปี 2008 โดยเริ่มต้นจากสาขาเดียว ก่อนที่ภายหลังจะย้ายไปที่แอริโซนา โดยแบล็ก ร็อคถือเป็นผู้ค้าปลีกกาแฟรายล่าสุดที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (NYSE) เพื่อเข้ามาแข่งขันกับคู่แข่งทางธุรกิจอย่าง Starbucks และ Dutch Bros โดยก่อนหน้านี้ การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งใหญ่ครั้งล่าสุด เป็นของ Cava Group เครือร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาในปี 2023 โดยในครั้งนั้น Cava สามารถระดมทุนได้กว่า 365 ล้านดอลลาร์
ในปัจจุบัน Black Rock Coffee มีจำนวนกว่า 158 สาขา กระจายกันไปใน 7 รัฐทั่วประเทศ ซึ่งในทุกสาขามีบริการไดรฟ์ทรู มีเมนูมีกาแฟหลากหลายชนิด รวมถึงเมนูอื่น ๆ เช่น ชา เครื่องดื่มชูกำลัง และอาหารเช้าให้เลือกสรร โดยบริษัทคาดว่าจะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 30 สาขาในปี 2025 และตั้งเป้าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของจำนวนสาขาต่อปีในอนาคต ให้อยู่ราว 20% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในอดีตตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2024 นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ครบ 1,000 สาขาภายในปี 2035 อีก
อ้างอิง: Bloomberg







