ยอดขายรถยนต์อีวีทั่วโลกโตช้าลง 'ตลาดจีน' ชะลอแรง ส.ค.โตแค่ 6%

ยอดขายรถยนต์อีวีทั่วโลกโตช้าลง 'ตลาดจีน' ชะลอแรง ส.ค.โตแค่ 6%

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเดือนส.ค. ยังเติบโต แต่โตเพิ่มขึ้นในอัตราช้าลงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ตลาด 'จีน' ซึมหนักตัวฉุดแรง แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นได้ในไตรมาส 4

บริษัทวิจัยตลาด Rho Motion เปิดเผยข้อมูลล่าสุดในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกเติบโต 15% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ "ช้าที่สุด" นับตั้งแต่เดือนมกราคม และสะท้อนถึงตลาดรถอีวีที่ตึงตัวขึ้น

ปัจจัยหลักมาจากยอดขายใน "จีน" ตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกที่เคยเติบโตได้เฉลี่ย 36% ต่อเดือนในช่วงครึ่งปีแรก กลับเติบโตชะลอตัวลงเหลือเพียง 6% ในเดือนสิงหาคม 

อย่างไรก็ตาม ชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของ Rho Motion คาดว่ายอดขายในจีนจะยังคงแข็งแกร่งในไตรมาส 4 เนื่องจากมีเงินทุนใหม่สำหรับโครงการอุดหนุนจากรัฐ และจากการฟื้นตัวตามฤดูกาลตามปกติช่วงปลายปี 

ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า "มากกว่าครึ่งหนึ่ง" จากยอดขายทั้งหมดทั่วโลก แต่ตัวเลขล่าสุดในเดือนส.ค. พบว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมของจีนเติบโตช้าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7  เดือน

ทางด้าน BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน ก็เพิ่งประกาศปรับลดเป้าหมายยอดขายทั่วโลกปี 2568 ลงมากถึง 16% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เดือนสิงหาคม ถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดในแง่ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดสำหรับ Geely และ Nio ซึ่งตอกย้ำว่าคู่แข่งรายเล็กกว่าในประเทศกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีน

“BYD ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ แต่ตอนนี้พวกเขากำลังรู้สึกถึงแรงกดดันจากผู้ผลิตรายอื่นอย่างแน่นอน” Rho Motion ระบุ

ขณะเดียวกัน การเติบโตในตลาดอื่นๆ ช่วยชดเชยความอ่อนแอในจีนได้บางส่วน ความต้องการใน "สหรัฐ" เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่เครดิตภาษีจะหมดอายุ ส่วนฝั่ง "ยุโรป" ก็ได้รับแรงหนุนจากมาตรการจูงใจต่างๆ เพื่อเร่งการลดการปล่อยคาร์บอน

สำหรับภาพรวมยอดขายรถ EV และ PHEV ทั่วโลกในเดือนสิงหาคม 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านคัน เติบโต 15% เมื่อเทียบปีก่อน และลดลงจากที่โตได้ 21% ในเดือนกรกฎาคม

ยอดขายรถยนต์ในจีนอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน ยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้น 48% เป็นประมาณ 283,453 คัน ขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 13% เป็น 201,255 คัน ส่วนยอดขายในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 56% เป็นมากกว่า 144,280 คัน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์