'ผู้ประท้วงเนปาล' หนุน 'อดีตประธานศาลฏีกาหญิง' เป็นรักษาการนายกฯ

'ผู้ประท้วงเนปาล' หนุน 'อดีตประธานศาลฏีกาหญิง' เป็นรักษาการนายกฯ

กลุ่มผู้ประท้วงเนปาล สนับสนุน 'อดีตประธานศาลฏีกาหญิง' คนแรกของประเทซ เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ชี้ มีความซื่อสัตย์ และไม่หวั่นไหว

"ผู้ประท้วงเนปาล"ผู้ประท้วงเจน Z เนปาลสนับสนุน"อดีตประธานศาลฎีกาหญิง"คนแรกของประเทศให้เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว และเรียกร้องให้ยุบรัฐสภาวันพฤหัสบดี (11 ก.ย.) สองวันหลังจากเกิดการประท้วงดุเดือดทำให้มีผู้เสียชีวิต 34 ราย และนายกรัฐมนตรีลาออก

สุสิลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกาเนปาลหญิงคนแรกที่ได้รับแต่งตั้งในปี 2559 ที่ตอนนี้เกษียณแล้ว กลายป็นตัวเต็งที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศชั่วคราว

โอจัสวี ราช ทาปา ตัวแทนผู้ประท้วงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำการประท้วงได้เสนอชื่อเธอต่อประธานาธิบดีและกองทัพ

“เราจะยุบสภา เราไม่ได้พยายามยุบรัฐธรรมนูญ” ธาปากล่าว “เราอาจต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้าง แต่เราไม่ต้องการยุบรัฐธรรมนูญ”

สุจิต กุมาร จา เลขานุการบริษัท วัย 34 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขามองว่า สุสิลา การ์กี เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ไม่กลัว ไม่หวั่นไหว

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบอกว่า ผู้ประท้วงยังคงพยายามที่จะหาข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ และไม่ใช่ทุกคนที่จะสนับสนุนการ์กี

 

ทั้งนี้ การ์กียังไม่รับโทรศัพท์จากรอยเตอร์สเมื่อโทรไปสอบถามความเห็น ขณะที่โฆษกกองทัพยังไม่แสดงความเห็นใดๆ

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี โฆษกกองทัพ ราชา ราม บาสเน็ต ได้กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “การเจรจาเบื้องต้นกำลังดำเนินอยู่ และจะดำเนินต่อไปในวันนี้” โดยกล่าวถึงการหารือเกี่ยวกับรักษาการนายกฯ 

“เรากำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆ” บาสเน็ตกล่าว

การชุมนุมที่เรียกกันว่าเป็นการประท้วงของ “Gen Z” เนื่องจากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยรุ่นหรืออายุราว 20 ปี ได้จุดชนวนให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ที่สุดในเนปาลในรอบหลายปี เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย ขณะที่ผู้ชุมนุมมองว่าควรแก้ไขปัญหาทุจริตมากกว่า ต่อมารัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการปิดกั้นโซเชียล แต่การประท้วงยังไม่สงบ จนทำให้เค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันอังคาร (9 ก.ย.) หนึ่งวันหลังจากผู้ประท้วง 19 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมที่รุนแรงจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่