Wednesday Effect เมื่อซีรีส์ขยายจักรวาล สร้างรายได้-แฟนคลับ

ซีรีส์ 'Wednesday' จาก Netflix ไม่เพียงสร้างยอดผู้ชมถล่มทลาย แต่ยังใช้กลยุทธ์ Transmedia Storytelling ช่วยเปิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายฐานแฟนคลับไปทั่วโลก

Wednesday ซีรีส์ดังจาก Netflix เปิดตัวในปี 2022 ด้วยการนำเสนอความเป็น Goth ในมุมมองใหม่ โดยมี Tim Burton ผู้กำกับชื่อดังจาก Edward Scissorhands และ Beetlejuice มารับหน้าที่กำกับ ซีรีส์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Netflix ในหลายประเทศ

เรื่องราวดำเนินมาถึงซีซันที่ 2 ซึ่งยังคงติดตามชีวิตของ Wednesday Addams นักเรียนในโรงเรียนประหลาด Nevermore Academy ที่เต็มไปด้วยความลับและสิ่งที่ยากจะอธิบาย ซีรีส์ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยปริศนาการฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับตระกูล Addams ซึ่งตัวละครหลักต้องร่วมมือกันค้นหาความจริง เรื่องราวผสมผสานความตลกร้ายและความมืดมิดของตัวละครได้อย่างลงตัว พร้อมสะท้อนความรู้สึกของวัยรุ่นที่รู้สึกแปลกแยกจากสังคมและการมองโลกในแง่ลบ

หลังจากที่ Netflix ปล่อย 4 ตอนแรกของซีซัน 2 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ก็มียอดผู้ชมรวมทะลุ 50 ล้านครั้งไปแล้ว ฐานแฟนคลับของซีรีส์ครอบคลุมตั้งแต่ Gen Z ไปจนถึง Gen X โดยเฉพาะกลุ่มที่เติบโตมากับการ์ตูน Addams Family และภาพยนตร์ของ Tim Burton แต่ซีรีย์ก็ยังสามารถดึงดูดผู้ชมใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสโลกของ Addams มาก่อนด้วยเช่นกัน

Wednesday Effect เมื่อซีรีส์ขยายจักรวาล สร้างรายได้-แฟนคลับ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีรีส์ประสบความสำเร็จคือการสร้างการมีส่วนร่วมจากแฟน ๆ ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะใน "TikTok" ซึ่ง #Wednesday มียอดโพสต์มากกว่า 3.5 ล้านโพสต์ในเวลาอันสั้น ทำให้ซีรีส์กลายเป็นกระแสแบบฉุดไม่อยู่

ตัวละครนำของเรื่องที่แสดงโดย Jenna Ortega มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความนิยม โดยเธอมีผู้ติดตามกว่า 10 ล้านคนภายใน 10 วันหลังจากซีซันแรกเปิดตัว ด้วยสไตล์และการแสดงของเธอช่วยสร้างความหลงใหลให้แฟนคลับทั่วโลก และทำให้การปรากฏตัวของเธอในสื่อกลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มฐานแฟน

ความสำเร็จของ Wednesday ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยอดผู้ชมหรือกระแสออนไลน์เท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่โลกของสินค้าและประสบการณ์ที่จับต้องได้ Netflix ต่อยอดจักรวาลของซีรีส์ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่ม Kidult หรือผู้ใหญ่ที่ยังหลงใหลของสะสมและสิ่งของวัยเด็ก

Wednesday Effect เมื่อซีรีส์ขยายจักรวาล สร้างรายได้-แฟนคลับ

นอกจากนี้ยังใช้พลังของ Cute Culture ผ่านตัวละครอย่าง Enid ที่สดใสและน่ารัก สร้างสินค้ารุ่นพิเศษมาเพิ่มเติม สำหรับแฟนคลาสสิกที่เติบโตมากับ The Addams Family และหนังของ Tim Burton ก็ยังมีสินค้าที่ผลิตภายใต้แนวคิด Nostalgic Childhood ทั้งตุ๊กตา ฟิกเกอร์ และของสะสมที่ตีความใหม่เพื่อเรียกความทรงจำและสร้างความผูกพัน

การขยายผลจากซีรีส์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ของสะสม Netflix ยังผลิต "The Official Cookbook" ที่รวมสูตรอาหารจากเรื่องราว โดยปรับสไตล์ให้เข้ากับธีมโกธิคของจักรวาล Wednesday ในสหรัฐอเมริกาซีรีส์ยังร่วมกับร้านฟาสต์ฟู้ด Wendy’s ในแคมเปญ “Meal of Misfortune” เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้แฟน ๆ ตัวอย่างเมนูสุดพิเศษ ได้แก่ Rest in 10-Piece Nuggets หรือ Raven's Blood Frosty ซึ่งทุกเมนูสะท้อนอารมณ์ขันแบบดาร์ค ๆ ตามสไตล์ของเรื่อง

Wednesday Effect เมื่อซีรีส์ขยายจักรวาล สร้างรายได้-แฟนคลับ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมออนไลน์อย่างเว็บไซต์ Nevermore Academy Admissions (www.nevermoreacademy.com) ที่เปิดให้แฟน ๆ สมัครเข้าเรียนได้จริง แถมด้วยเพลย์ลิสต์ Spotify ของซีซันสอง ที่ช่วยให้แฟน ๆ เชื่อมต่อกับจักรวาลของซีรีส์ได้ทั้งในโลกออนไลน์และชีวิตจริง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า Netflix ไม่เพียงสร้างซีรีส์ แต่สร้างจักรวาลที่แฟนคลับสามารถมีส่วนร่วมและสัมผัสได้ในหลายมิติ

ซีรีส์ Wednesday ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของกลยุทธ์ Netflix ในการต่อยอด IP สู่ช่องทางรายได้ใหม่ ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิก (Subscription) แต่ยังสร้างโอกาสจากการขายสิทธิ์และการออกแบบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับแฟน ๆ โดยตรง ในปี 2025 Netflix คาดว่าจะลงทุนด้านการพัฒนาเนื้อหาสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 11%

การลงทุนเชิงคุณภาพนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับจักรวาลของซีรีส์ และเปิดโอกาสในการขยาย IP ไปสู่สินค้าและประสบการณ์ที่จับต้องได้ ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การจัดการ IP ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียง “ภารกิจภายหลัง” ที่ทำเพื่อการปกป้อง แต่ควรเป็น “กลยุทธ์ตั้งต้น” ที่วางรากฐานในการสร้างมูลค่าและรายได้ระยะยาว