ทรัมป์จ่อขึ้นภาษีนำเข้าจีน อินเดียครั้งใหญ่อีกรอบ กดดันรัสเซีย

ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกกับเจ้าหน้าที่ยุโรปว่าเขาพร้อมที่จะขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหม่กับอินเดียและจีน เพื่อผลักดันให้ประธานาธิบดีปูติน เข้าสู่โต๊ะเจรจากับยูเครน
บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (10 ก.ย. 68) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับเจ้าหน้าที่ยุโรปว่าเขาพร้อมที่จะขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่รอบใหม่กับอินเดียและจีน เพื่อผลักดันให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เข้าสู่โต๊ะเจรจากับยูเครน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ต้องขึ้นภาษีด้วยกัน
ทรัมป์ได้ยื่นข้อเสนอนี้ในระหว่างประชุมออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในกรุงวอชิงตัน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจา
แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า สหรัฐฯ ยินดีที่จะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าให้คล้ายกับที่ยุโรปใช้บังคับกับทั้งสองประเทศ
ข้อเสนอนี้ถือเป็นความท้าทาย เนื่องจากหลายประเทศ รวมถึงฮังการี เคยระงับมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดของสหภาพยุโรปที่มุ่งเป้าไปที่ภาคพลังงานของรัสเซียมาแล้วในอดีต มาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทุกประเทศ
มาตรการอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปอาจหารือกัน ได้แก่ มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อกองเรือเงาที่ใช้บรรทุกน้ำมันของรัสเซีย รวมถึงการจำกัดการทำธุรกิจของธนาคาร ภาคการเงิน และบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว
การดำเนินการใดๆ ของสหรัฐฯ สุดท้ายแล้วจะขึ้นอยู่กับทรัมป์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังคงไม่ลงโทษรัสเซียโดยตรง แม้รัสเซียจะฝ่าฝืนเส้นตายที่กำหนดไว้หลายครั้ง และปูตินก็ยังคงลังเลที่จะเจรจายุติสงคราม อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจากอินเดียสองเท่าเป็น 50% จากที่อินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ต่อมาในวันอังคาร ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่าสหรัฐฯ และอินเดียยังคงเจรจากันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า
เขากล่าวว่าเขาตั้งตารอที่จะ "พูดคุยกับเพื่อนรัก" นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
- ทรัมป์กดดันอียูขึ้นภาษีนำเข้าจีน-อินเดีย 100%
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานวันอังคารว่า ทรัมป์ขอให้สหภาพยุโรปขึ้นภาษีจีนและอินเดียถึง 100% ข้อเสนอของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากเส้นตายที่ปูตินจะจัดการประชุมทวิภาคีกับโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ผ่านพ้นไป โดยไม่มีการบ่งชี้ว่าผู้นำรัสเซีย ซึ่งได้พบกับทรัมป์เมื่อปลายเดือนที่แล้วที่อะแลสกา สนใจที่จะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพแบบตัวต่อตัวอย่างแท้จริง
แต่มอสโกกลับเพิ่มการทิ้งระเบิดยูเครน โดยการโจมตีเมื่อวันอังคารทำให้ผู้รับบำนาญมากกว่า 20 คนเสียชีวิต ขณะที่พวกเขากำลังเข้าคิวรอรับเงินบำนาญในยูเครนตะวันออกคณะผู้แทนเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้เพื่อพบปะกับสหรัฐฯ และหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการดำเนินการร่วมกันเพื่อกดดันรัสเซียให้ยุติสงครามกับยูเครนและเข้าสู่การเจรจากับกรุงเคียฟ
นายกรัฐมนตรียูลิยา สวีรีเดนโก ของยูเครน ซึ่งเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า เธอเรียกร้องให้พันธมิตรของกรุงเคียฟพุ่งเป้าไปที่กองเรือเงา บริษัทน้ำมันรายใหญ่ โรงกลั่น ผู้ค้า และผู้สนับสนุนอื่นๆของรัสเซีย
การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหภาพยุโรปกำลังหารือเกี่ยวกับเนื้อหาของมาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 19 ตามที่บลูมเบิร์กรายงานก่อนหน้านี้
มอสโกกำลังอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงอยู่แล้วจากทั้งสหรัฐฯ และยุโรป แต่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบบางส่วนได้ด้วยการจัดหาสินค้าที่ถูกจำกัดจากจีนและประเทศที่สามอื่นๆ รวมถึงการหาลูกค้าสำหรับซื้อน้ำมันและก๊าซในปักกิ่ง อินเดีย และที่อื่นๆ
ในขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียแสดงสัญญาณอ่อนแอมากขึ้น มาตรการที่มุ่งเป้าไปที่การจัดหาและแหล่งรายได้สำคัญเหล่านี้น่าจะเพิ่มแรงกดดันให้กับเครื่องจักรสงครามและการเงินของมอสโก







