เงินเยนอ่อนค่าแรง หลังนายกฯอิชิบะลาออก จุดความไม่แน่นอนในตลาด

เงินเยนอ่อนค่าแรง หลังนายกฯอิชิบะลาออก จุดความไม่แน่นอนในตลาด

เงินเยนอ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดเอเชีย ตลาดญี่ปุ่นเตรียมรับความผันผวนรอบใหม่ หลังจากนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ประกาศลาออกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

บลูมเบิร์ก รายงานว่า เงินเยนอ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงเช้า (8 ก.ย.68) ของตลาดเอเชีย ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเตรียมรับความผันผวนรอบใหม่ หลังจาก นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ประกาศลาออก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมากถึง 0.7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ลบล้างการแข็งค่าของเงินในวันศุกร์หายไป ขณะที่นักกลยุทธ์การลงทุนกล่าวว่าพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นระยะยาวดูเปราะบางท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้จ่ายทางการคลัง การลาออกของอิชิบะเป็นการสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งที่บอบช้ำจากผลการเลือกตั้งที่ย่ำแย่ และทำให้ตลาดยังคงลังเลเกี่ยวกับทิศทางการคลังของญี่ปุ่น

การลาออกครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จนกว่าจะมีผู้นำคนใหม่เข้ามา

ด้านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐฯ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเช้า ขณะ S&P 500 ฟิวเจอร์ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ณ เวลา 7:37 น. ตามเวลาโตเกียว ขณะที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า CME Nikkei มีเสถียรภาพมากขึ้น

หุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้น รับข่าวนายกฯลาออก

ดัชนีนิกเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.5% หลังจากแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นหลายสัปดาห์จากความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อปลายปีที่แล้ว ดัชนี Topix ปรับตัวสูงขึ้น 1% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้นกว่า 4 จุด (basis points) เป็น 3.272% หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 100 เบซิสพอยท์ในปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 20 ปี สูงขึ้นกว่า 3 จุด ที่ 2.676%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น และความไม่แน่นอนทางการคลัง

คาดนักลงทุนลดการถือครองเงินเยน

“นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ปัจจุบันแทบไม่มีใครอยากถือครองเงินเยน” คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone Group เขียนไว้ในบันทึกถึงลูกค้า “มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเงินเยนในเอเชียจะอ่อนค่าลง”

ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หลังปรับลดลงอาทิตย์ที่แล้ว และ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เลือกที่จะเริ่มฟื้นฟูการผลิตน้ำมันที่หยุดชะงักลง เร็วกว่ากำหนดมากกว่าหนึ่งปี แทนที่จะหยุดการผลิตชั่วคราวตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ในตอนแรก การเพิ่มการผลิตล่าสุดเกิดขี้น หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ได้เสร็จสิ้นการฟื้นฟูการผลิตน้ำมันที่หยุดชะงักก่อนหน้านี้อย่างน่าประหลาดใจ แต่การเพิ่มการผลิตไม่มากในรอบล่าสุด แสดงให้เห็นถึงท่าทีระมัดระวังของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% แตะที่ 65.83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8:30 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนตุลาคม ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% แตะที่ 62.16 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ในส่วนอื่นๆ ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว

ราคาพันธบัตรออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าของการซื้อขาย ซึ่งสอดคล้องกับการฟื้นตัวของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลง เนื่องจากความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนนี้ได้รับการยืนยัน และตลาดคาดการณ์โอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ตามข้อมูลตลาดสวอปที่รวบรวมโดย Bloomberg

 

“ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ และอาจทดสอบระดับต่ำสุดในรอบปีอีกครั้ง” นักกลยุทธ์ของธนาคารCommonwealth Bank of Australia รวมถึงโจเซฟ คาปูร์โซ เขียนไว้ในบันทึกถึงลูกค้า “จากการที่นายพาวเวล ประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ให้ความสำคัญกับตลาดแรงงาน นักลงทุนอาจจะเชื่อว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ในสัปดาห์หน้า”

 

ในช่วงบ่ายวันจันทร์ นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลการค้าของจีน เพื่อประเมินผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐฯ ต่อการส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวม ตลาดพันธบัตรจีนอาจเป็นจุดสนใจเช่นกัน หลังจากที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาอนุญาตให้บริษัทพลังงานของรัสเซียกลับมาออกพันธบัตรสกุลเงินหยวนอีกครั้ง