‘Tesla’ จ่อขึ้นเป็นผู้นำอีวีญี่ปุ่น หลัง ‘ใกล้แซง’ แชมป์นิสสัน

‘Tesla’ จ่อขึ้นเป็นผู้นำอีวีญี่ปุ่น หลัง ‘ใกล้แซง’ แชมป์นิสสัน

‘เทสลา’ เร่งรุกตลาดญี่ปุ่นอย่างหนัก ทั้งหั่นราคารถ EV ลงต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขยายโชว์รูมทั่วประเทศ และสร้างเครือข่ายที่ชาร์จเร็ว จนยอดขายพุ่งทำสถิติใหม่ พร้อมขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ยอดขายที่ ‘นิสสัน’ ครองมายาวนานเกือบ 15 ปี

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า “เทสลา” (Tesla) บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของสหรัฐ ใกล้จะแย่งชิง “ตำแหน่งผู้ขายอีวีอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น” โดย Tesla กำลังมุ่งจะแซงหน้านิสสัน มอเตอร์ เจ้าตลาด ด้วยกลยุทธ์ตั้งราคารถ EV ต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่าราว 9.5 แสนบาท

ในเดือนสิงหาคม เทสลาขายรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารได้ราว 980 คันในญี่ปุ่น ซึ่ง “เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า” เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกัน ยอดขายของนิสสันในเดือนสิงหาคมกลับ “ร่วงลง 48%” เมื่อเทียบรายปี เหลือ 1,120 คัน โดยผู้ผลิตรถญี่ปุ่นรายนี้ได้รับผลกระทบหนักจากการชะลอตัวของตลาดรถ EV ภายในประเทศ

ที่ผ่านมา นิสสันครองแชมป์ยอดขายรถอีวีรายเดือนในญี่ปุ่นมาเกือบ 15 ปี นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่น Leaf ในปี 2010 โดยในเดือนมกราคม 2023 นิสสันยังนำเทสลามากกว่า 6,000 คัน แต่ปัจจุบันช่องว่างดังกล่าวกลับ “แคบลงเหลือราว 100 คัน” เท่านั้น

แม้ว่าเทสลาจะเผชิญยอดขายซบเซาในประเทศอุตสาหกรรมอย่างสหรัฐ และยุโรป ส่วนหนึ่งมาจากกระแสตีกลับต่อกิจกรรมทางการเมืองและท่าทีของ ซีอีโออีลอน มัสก์ แต่ญี่ปุ่นกลับเป็น “ข้อยกเว้น” ที่โดดเด่น โดยยอดขายเทสลาในญี่ปุ่นพุ่งทำสถิติใหม่

ระหว่างเดือนมกราคมถึงสิงหาคม มีการขายรถเทสลารวมราว 6,590 คัน เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดขายสะสมปีนี้ ได้แซงหน้าสถิติสูงสุดตลอดทั้งปีที่เคยทำไว้ราว 5,900 คันในปี 2022 ไปแล้ว

เทสลากำลังเข้าใกล้เป้าหมายการขายรถ EV 10,000 คันต่อปีในญี่ปุ่น จากความสำเร็จของการปรับกลยุทธ์การขายในประเทศ

เมื่อเดือนพฤษภาคม เทสลาได้ปรับลดราคา Model 3 รุ่นเรือธงเป็นการชั่วคราว โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังซึ่งมีราคาย่อมเยาที่สุดอยู่ที่ 3.99 ล้านเยน หลังจากหักส่วนลดของเทสลา 453,000 เยน และยังได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลสำหรับการซื้อรถ EV ทำให้ราคาลดลงไปอีก

ริชิ ฮาชิโมโตะ หัวหน้าเทสลาญี่ปุ่นกล่าวว่า “เราต้องการลบภาพลักษณ์ที่ว่า Model 3 เป็นรถหรู และผลักดันให้กลายเป็นรถยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็สามารถซื้อได้”

ในปัจจุบัน บริษัทกำลังเร่งขยายจำนวนตัวแทนจำหน่าย โดยการขายทั้งหมดของเทสลาดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ และกิจกรรมส่งเสริมการขายส่วนใหญ่ก็ทำบนเว็บไซต์เช่นกัน จนถึงปีที่แล้ว เทสลามีโชว์รูมเพียง 14 แห่งทั่วญี่ปุ่น แต่ล่าสุดได้หันมาให้ความสำคัญกับการเปิดร้านจริง

สำหรับจำนวนโชว์รูมของเทสลาในญี่ปุ่น จะขยายเป็น 25 แห่งภายในสิ้นเดือนนี้ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทเพิ่งเปิดโชว์รูมแห่งแรกในจังหวัดโอกินาวะ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนสถานที่จริงเป็น 30 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และ 50 แห่งในปี 2026

ขณะนี้ ส่วนแบ่งตลาดของเทสลาในญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 30% จากการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ ซึ่งเทสลามีชื่อเสียงด้าน “เครื่องชาร์จเร็ว” โดยจะติดตั้งสถานีที่มีกำลังชาร์จ 150 กิโลวัตต์ขึ้นไป 

เพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติม เทสลามีความหวังสูงกับฟังก์ชันขับขี่อัตโนมัติด้วยปัญญาประดิษฐ์ และเริ่มทดสอบการใช้งานในญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว

อ้างอิง: nikkei