‘สหรัฐ’ โจมตีเรือเวเนซุเอลา เสียชีวิต 11 ราย อ้างสกัดขนยาเสพติดไปอเมริกา

หวั่นสัมพันธ์ตึงเครียด กองทัพเรือสหรัฐโจมตีเรือจากเวเนซุเอลา สกัดการขนส่งยาเสพติดไปอเมริกา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า กองทัพเรือสหรัฐได้สังหารคนไป 11 ราย จากการโจมตีเรือที่มาจากเวเนซุเอลา เมื่อวันอังคาร (2 ก.ย.68) ที่ผ่านมา เสี่ยงทำความสัมพันธ์สหรัฐ และชาติลาตินอเมริกาตึงเครียดมากขึ้นไปอีก ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากการโจมตีดังกล่าว
ทรัมป์ อ้างว่า กองทัพสหรัฐพบว่า ลูกเรือบนเรือที่ถูกโจมตี เป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua (เทรน เด อารากัว) ของเวเนซุเอลา ที่สหรัฐประกาศเป็นกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และกล่าวหาว่า แก๊งดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา แต่รัฐบาลของมาดูโรปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
การที่ทรัมป์มุ่งเป้าไปที่มาดูโร ทำให้เกิดความกังวลในกรุงการากัสว่า รัฐบาลของพวกเขาอาจเป็นเป้าหมายที่แท้จริง
เดือนที่แล้ว สหรัฐเพิ่มเงินรางวัลเป็นสองเท่าเป็น 50 ล้านดอลลาร์ สำหรับใครก็ตามที่ให้ข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุม ปธน.มาดูโร ที่เขากล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายา
ด้านเจ้าหน้าที่เวเนซุเอลากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า แก๊ง Tren de Aragua ไม่ได้ดำเนินการในประเทศอีกต่อไป หลังจากที่รัฐบาลได้ถอนรากถอนโคนกลุ่มดังกล่าวในการบุกค้นเรือนจำเมื่อปี 2023
รอยเตอร์ส ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นปฏิบัติการแรกนับตั้งแต่สหรัฐส่งกองเรือรบไปประจำการเพิ่มเติมในแคริบเบียนตอนใต้ ซึ่งเสี่ยงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และเวเนซุเอลาร้าวฉานมากขึ้น
ปธน.ทรัมป์ยังได้แชร์วิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพการโจมตี ผ่านมุมมองของโดรนที่บินอยู่เหนือเรือลำหนึ่ง ที่ถูกระเบิด และเกิดเพลิงไหม้ในทะเล
เฟรดดี นาเนซ รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารของเวเนซุเอลา ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียตอบโต้ว่า วิดีโอที่ทรัมป์แชร์นั้น สร้างขึ้นด้วยเอไอ
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้ตรวจสอบวิดีโอเบื้องต้นแล้ว รวมถึงตรวจสอบองค์ประกอบภาพโดยใช้เครื่องมือตรวจจับการบิดเบือน แต่ก็ไม่พบว่า คลิปดังกล่าวมีการบิดเบือนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ส ยังคงดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป เมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้ รวมถึงยังไม่เปิดเผยชนิดของยาเสพติดที่อยู่บนเรือ หรือปริมาณสารเสพติด หรือวิธีการโจมตี
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ย้ำถึงปฏิบัติการในแคริบเบียน ว่า มาจากความมุ่งมั่นของ ปธน.ทรัมป์ ที่ต้องการปราบปรามยาเสพติดในภูมิภาค และในประเทศ
รูบิโอ บอกว่า ประธานาธิบดีกำลังดำเนินปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติด และการค้ายาเสพติดในสหรัฐอย่างแข็งขัน และคาดว่า ยาเสพติดบนเรือที่ถูกโจมตีอาจกำลังมุ่งหน้าไปตรินิแดดหรือประเทศอื่นในทะเลแคริบเบียน
รอยเตอร์ส ระบุว่า การตัดสินใจระเบิดเรือที่ต้องสงสัยว่าบรรทุกยาเสพติด แทนที่จะยึดเรือ และจับกุมลูกเรือนั้น ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง และชวนให้นึกถึงการต่อสู้ของสหรัฐ กับกลุ่มติดอาวุธอย่างอัลกออิดะห์
อดัม ไอแซคสัน ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลกลาโหม ประจำลาตินอเมริกา สำนักงานวอชิงตัน โพสต์ใน X ในเชิงไม่เห็นด้วยว่า “การถูกต้องสงสัยว่าขนยาเสพติด ไม่ได้หมายถึงต้องลงโทษประหารชีวิต”
แม้ว่ากองทัพเรือสหรัฐจะประจำการอยู่ในแถบแคริบเบียนตอนใต้เป็นประจำ แต่จำนวนเรือที่อยู่ในภูมิภาคตอนนี้นั้น เกินกว่าจำนวนที่ประจำการปกติ จึงสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคมากขึ้น
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งเรือรบไปยังแถบแคริบเบียนตอนใต้ โดยมีเป้าหมายปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติด และตอนนี้ภูมิภาคดังกล่าว ยังคงมีเรือรบสหรัฐ 7 ลำ พร้อมด้วยเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่โจมตีได้รวดเร็ว 1 ลำ ประจำการอยู่ หรือไม่ก็อาจจะมาถึงในเร็วๆ นี้โดยจะนำทหารเรือ และนาวิกโยธินมามากกว่า 4,500 นาย
รอยเตอร์ส เผยว่า กองทัพเรือสหรัฐมีเรือรบหลายลำ ทั้งเรือ USS San Antonio เรือ USS Iwo Jima และเรือ USS Fort Lauderdale บางลำสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ได้ ขณะที่บางลำสามารถติดตั้งขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์กได้
สำหรับการตรวจพบกลุ่มขนยาเสพติด เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า กองทัพได้ใช้เครื่องบินสอดแนม P-8 คอยรวบรวมข่าวกรอง ด้วยการบินเหนือน่านน้ำสากล
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







