ลิซา คุก กรรมการเฟดยื่นฟ้องศาลขวางคำสั่งปลดของทรัมป์

ลิซา คุก กรรมการเฟดยื่นฟ้องศาลโต้คำสั่งปลดของประธานาธิบดีทรัมป์ แจง ‘ความผิดพลาดทางธุรการ’ อาจเป็นเหตุข้อพิพาทเรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่ใช่ความผิดร้ายแรง
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ทนายความของ ลิซา คุก กรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ระบุว่า “ความผิดพลาดทางธุรการ” โดยไม่ตั้งใจอาจเป็นเหตุเบื้องหลังข้อพิพาทเรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการไล่เธอออกจากตำแหน่ง
คุกได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.68) เพื่อขัดขวาง “ความพยายามที่ผิดกฎหมาย” ของทรัมป์ โดยอ้างว่าเขาใช้ข้ออ้างปลอมๆ ซึ่งไม่มี “เหตุผล” เพียงพอที่จะปลดเธอออกจากธนาคารกลางสหรัฐ
ในเอกสารยื่นต่อศาล ทนายความของเธอได้นำเสนอข้อแก้ต่างต่อข้อกล่าวหาที่ว่าเธอได้ระบุรายการบ้านในรัฐมิชิแกน และจอร์เจียโดยตั้งใจให้ข้อมูลเท็จว่าเป็น “ที่อยู่อาศัยหลัก” เมื่อเธอได้รับสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2564
บิล พัลต์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลาง อ้างว่าเธอได้ให้คำประกาศดังกล่าวเพื่อให้ได้เงื่อนไขเงินกู้ที่ผ่อนปรนมากขึ้น และเขาได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังอัยการ
ทนายความของคุกได้อธิบายเพื่อลบล้างเจตนาฉ้อโกงที่ทรัมป์ และพัลต์ กล่าวหาเธอในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาแย้งว่าหากมีข้อผิดพลาด เธอไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงใคร และไม่มีใครได้รับความเสียหายที่ถือเป็นสาระสำคัญ
ทนายความของคุกระบุไว้ในเอกสารยื่นต่อศาลเพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวว่า ความเป็นไปได้ที่คุก “ระบุวัตถุประสงค์ของบ้านผิดในใบยื่นขอสินเชื่อบ้านก่อนการได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการเฟดโดยไม่มีการกล่าวหาว่ามีเจตนาทำผิดหรือสาระสำคัญใดๆ จึงไม่ใช่ ‘ความผิด’ ที่จะถือเป็น ‘เหตุ’” เพื่อปลดเธอ
ทรัมป์ และพัลต์ “ไม่ได้กล่าวหาอย่างชัดเจนว่านางคุกได้รับประโยชน์จากความผิดพลาดทางธุรการ หรือความผิดพลาดดังกล่าวเป็นความตั้งใจ”
พัลต์ได้โจมตีคุกผ่านโพสต์โซเชียลมีเดียหลายโพสต์ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่คุกยื่นฟ้องเมื่อวันพฤหัสบดี พัลต์ได้โพสต์ว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” เขายังโพสต์ภาพกราฟิกที่เขากล่าวว่า ลายเซ็นตรงกันในเอกสารสินเชื่อบ้านสำหรับอสังหาริมทรัพย์ในมิชิแกน และแอตแลนตา
คุกกล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อศาลว่าทรัมป์พยายามปลดเธอออกโดยไม่ให้โอกาสเธอได้ชี้แจงข้อกล่าวหาของพัลต์ ซึ่งทำให้เธอไม่ได้รับสิทธิตามรัฐธรรมนูญในเรื่องกระบวนการยุติธรรม
เธอยังกล่าวอีกว่าเธอมีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐ
คดีความนี้เป็นการยกระดับความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างทำเนียบขาว และธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งขัดขืนข้อเรียกร้องของทรัมป์ที่ต้องการลดอัตราดอกเบี้ย แม้ทรัมป์จะโจมตีเจอโรม พาวเวลล์ หลายครั้ง ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ก็ยังขัดขืนข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีให้ลาออก
ในคำฟ้อง คุกระบุว่าความพยายามในการปลดทั้งเธอ และพาวเวลล์เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่จะยึดอำนาจธนาคารกลางสหรัฐ
“จากสถานการณ์ที่นำไปสู่การปลดผู้ว่าการคุกออกจากคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ เห็นได้ชัดว่าข้อกล่าวหาเรื่องการจำนองที่กล่าวหาเธอเป็นเพียงข้ออ้าง เพื่อให้สามารถปลดเธอออกจากตำแหน่งโดยเร็ว และเพื่อให้ประธานาธิบดีทรัมป์สามารถตั้งคนมาดำรงตำแหน่งแทน และผลักดันวาระของเขาเพื่อบ่อนทำลายความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ” ข้อความตามคำฟ้องระบุไว้
ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ เจีย คอบบ์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กำหนดนัดไต่สวนในวันศุกร์นี้ ณ ศาลรัฐบาลกลางวอชิงตัน เกี่ยวกับคำร้องขอคำสั่งห้ามของคุก การพิจารณาคดีกำหนดไว้เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
รัฐบาลยังได้ยื่นฟ้องผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีคนสำคัญสองคน ได้แก่ อดัม ชิฟฟ์ วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย และเลทิเทีย เจมส์ อัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวยอร์ก ในข้อหาฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทั้งคู่ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ขณะที่พรรคเดโมแครตกล่าวหา ประธานาธิบดีว่าใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางเป็นอาวุธเพื่อโจมตีคนที่ตนมองว่าเป็นศัตรู
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







