เม็กซิโกเล็ง ‘ขึ้นภาษีจีน’! สกัดมังกรใช้เป็นฐานส่งต่อไปสหรัฐ

‘เม็กซิโก’ เตรียมเดินตามแรงกดดันจากสหรัฐ โดยผลักดันแผน ‘ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน’ ครอบคลุมรถยนต์ สิ่งทอ และพลาสติก เพื่อปกป้องฐานการผลิตในประเทศ และสอดรับนโยบายของ ปธน.ทรัมป์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลเม็กซิโกมีแผนจะ “ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน” ในข้อเสนองบประมาณปี 2026 ซึ่งจะประกาศในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องธุรกิจในประเทศจากการนำเข้าราคาถูก และเพื่อตอบรับความต้องการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การปรับขึ้นภาษีดังกล่าว คาดว่าจะครอบคลุมสินค้านำเข้าอย่างรถยนต์ สิ่งทอ และพลาสติก ซึ่งอัตราภาษีที่เฉพาะเจาะจง ยังไม่ชัดเจนในทันที และแผนดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
แหล่งข่าวระบุว่า ร่างข้อเสนอรายได้จากรัฐบาลของประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาว์ม แห่งเม็กซิโก มีกำหนดส่งต่อสภาคองเกรสภายในวันที่ 8 กันยายน
แม้แผนงบประมาณดังกล่าว จะต้องได้รับการอนุมัติจากฝ่ายนิติบัญญัติ แต่พรรคของเชนบาว์ม และพันธมิตร “ครองเสียงข้างมากถึงสองในสาม” ทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทำให้โอกาสที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะเปลี่ยนแปลงแผนมีจำกัด
นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้กดดันเจ้าหน้าที่เม็กซิโกให้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนตามแนวทางที่สหรัฐใช้ เม็กซิโกจึงได้เสนอแนวคิดเรื่อง “ป้อมปราการอเมริกาเหนือ” ที่มุ่งจำกัดการขนส่งสินค้าจากจีน ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการค้าและการผลิตระหว่างสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา
นอกจากนี้ ทั้งสามประเทศยังเตรียมทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีที่เคยเจรจากันไว้ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ ภายในช่วงกลางปีหน้า
“การส่งออกของจีนไปยังภูมิภาคละตินอเมริกา มีการเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในปีนี้ ช่วยชดเชยการส่งออกที่ลดลงไปยังตลาดสหรัฐ นอกเหนือจากการทำให้ชาวอเมริกันพอใจแล้ว เม็กซิโกยังจำเป็นต้องปกป้องฐานการผลิตของตนเองด้วย” หนิง ซุน นักกลยุทธ์อาวุโสด้านตลาดเกิดใหม่แห่ง State Street Global Markets ในบอสตันกล่าว “ผมคาดว่า เม็กซิโกจะปรับนโยบายเศรษฐกิจและการต่างประเทศให้สอดคล้องกับสหรัฐ”
สำหรับแรงกดดันจากสหรัฐ ซึ่งเป็น “คู่ค้าใหญ่ที่สุด” ของเม็กซิโก ให้ยับยั้งการหลั่งไหลของสินค้าราคาถูกจากจีนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากข้อกล่าวหาของทรัมป์ว่า สินค้าเหล่านี้ถูกนำเข้ามายังเม็กซิโกแล้วค่อยเล็ดลอดขึ้นไปยังสหรัฐ โดยทรัมป์เพิ่งผ่อนปรนไม่เก็บภาษีที่สูงขึ้นกับเม็กซิโกเมื่อเดือนที่แล้ว หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์กับเชนบาว์ม เพื่อเปิดโอกาสให้มีเวลาเจรจาการค้าเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เม็กซิโกและสหรัฐ กำลังใกล้บรรลุข้อตกลงเพื่อจัดการกับการลักลอบค้ายาเสพติดและความรุนแรง โดยทรัมป์ได้อ้างถึง “การค้ายาเฟนทานิล” ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้เม็กซิโกต้องจ่ายภาษี 25% สำหรับสินค้าที่ไม่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสองประเทศ
ในปัจจุบัน เม็กซิโกได้กลายเป็น “จุดหมายการส่งออกรถยนต์จีนอันดับ 1 ของโลก” แซงหน้ารัสเซีย ตามข้อมูลจากสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน ซึ่งราคาที่จับต้องได้และการรับประกันที่ดึงดูดใจ ทำให้แบรนด์จีนอย่าง BYD, SAIC Motor และ Chery Automobile เข้าตีตลาดได้ เช่น รถ SUV จากผู้ผลิตจีน สามารถมีราคาถูกกว่ารถรุ่นญี่ปุ่นหรือสหรัฐเกือบ 20%
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







