Catch of Canada ชิมอาหารทะเลสดสามมหาสมุทร

แคนาดา สมาชิกในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า G7 เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ที่ไม่ได้มีความหมายแค่ภูมิรัฐศาสตร์ แต่ยังครอบคลุมถึงยุทธศาสตร์การค้าการลงทุนโดยเฉพาะด้านอาหารและสินค้าเกษตร
งาน Catch of Canada ที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อนโดยสำนักงานเกษตรและอาหารเกษตรอินโดแปซิฟิก (IPAAO) นำโดยดีดราห์ เคลลี (Diedrah Kelly) ผู้อำนวยการบริหาร IPAAO เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างแสดงถึงความมุ่งมั่นนำเสนอรสชาติอันเยี่ยมยอดจากชายฝั่งและชนบทของแคนาดาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รู้จักมากขึ้น ราวกับยกทะเลและท้องทุ่งแคนาดามาไว้กลางกรุงเทพฯ
กรุงเทพธุรกิจพูดคุยกับ ปิง กิดนิกร เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย ถึงของดีแคนาดาที่มาของงาน Catch of Canada ทูตเผยว่า งานนี้เน้นจัดแสดงสินค้าซีฟู้ดแคนาดาชื่อดังที่มีวางจำหน่ายในไทยแล้วอย่างล็อบสเตอร์, ปูหิมะตัวมหึมา, หอยสแกลล็อป “แถมปีนี้ยังมีสินค้าใหม่ๆ มาโปรโมทด้วย”
- ทำไมต้องแคนาดา
สำหรับนักชิมชาวไทยที่สงสัยว่า ซีฟู้ดไทยก็อร่อยอยู่แล้ว ทำไมต้องลองซีฟู้ดแคนาดาด้วย ทูตปิงเห็นพ้องแต่มีคำอธิบาย
“ถูกต้องเลยค่ะประเทศไทยมีทรัพยากรด้านอาหารทะเลและประมงอุดมสมบูรณ์จริงๆ แต่ที่แตกต่างกันก็คือแคนาดามีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ต่างออกไปอย่างมาก อาหารทะเลของเราจึงมีรสชาติและคุณลักษณะต่างออกไปด้วย”
"เราภาคภูมิใจกับสินค้าคุณภาพพรีเมียมของเรามาก คุณรู้มั้ยน้ำของเราเย็นมากๆๆ เรามีมหาสมุทรสองด้านทั้งแอตแลนติกและแปซิฟิก รวมอาร์กติกด้วยเราก็มีสามชายฝั่ง แต่แน่นอนว่าชายฝั่งตะวันออกโด่งดังที่สุดเรื่องอาหารทะเลแคนาดา อย่างล็อบสเตอร์ที่ดิฉันพูดไปเราเป็นผู้นำโลก หรือหอยนางรมที่นำมาวันนี้เป็นของสด ไม่ทราบว่าคุณได้ลองชิมหรือยัง มันเยี่ยมมาก" ทูตปิงกล่าวและว่า ในเมื่อไทยเองก็มีอุตสาหกรรมซีฟู้ดเหมือนกัน จึงเสริมกันได้ แคนาดานำเข้ากุ้งไทยจำนวนมาก ความต้องการสินค้าที่แตกต่างถือเป็นความสัมพันธ์ที่ดี
- ส่งเสริมความยั่งยืน
นอกเหนือจากคุณภาพยอดเยี่ยมแล้ว อาหารทะเลแคนาดายังมีวิธีปฏิบัติที่ส่งเสริมความยั่งยืน ใช้นวัตกรรมปรับปรุงวิธีการเพาะเลี้ยง ขนส่ง แปรูป ทูตปิงยกตัวอย่างการจัดการทรัพยากรจำพวกปลาและล็อบสเตอร์ของแคนาดาว่า มีกฎเกณฑ์การจับที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่จับปลามากเกินไป
"ไม่ได้สักแต่ว่าจับต้องปกป้องพวกมันด้วย ดังนั้นเราจำต้องมีกฎระเบียบ"
อีกหนึ่งแนวทางปฏิบัติของแคนาดาคือพยายามส่งเสริมการมีส่วนร่วมในระดับนานาชาติ เพราะอาหารทะเล “ไม่มีพรมแดน” เกิดการทำประมงเกินขนาด จับปลามากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน่านน้ำสากล แคนาดาจึงส่งเสริมการติดฉลากและตราสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ของแคนาดาไม่ได้ใช้อวนลากซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งปลาและพื้นมหาสมุทร ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า แคนาดามีการรับรองที่เข้มงวดมาก
- โอกาสในตลาดไทย
ทูตปิงมองว่า ศักยภาพของสินค้าแคนาดาในตลาดไทยยังมีอยู่เสมอ สิ่งที่ต้องทำคือการสร้างแบรนด์ โดยทำงานร่วมกับผู้นำเข้าสินค้าชาวไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อมูลว่า "สินค้าแคนาดาได้รับการตอบรับที่ดีมาก" คำถามอยู่ที่ดีมานด์พราะตลาดไทยเป็นตลาดที่ซับซ้อน มีสินค้าจากหลายประเทศเข้ามาขาย
“เราจึงต้องมองหาว่าสินค้าชนิดไหนเหมาะ เสริมกัน ซึ่งเราเห็นศักยภาพมหาศาลที่นี่ เพราะดิฉันคิดว่าผู้บริโภคชาวไทยมีการศึกษาดีมาก อาหารในจานของพวกเขาซับซ้อน เพราะได้เดินทางมาก เมื่อพวกเขาชิมปูหิมะที่แฮลิแฟกซ์ โนวาสโกเชีย พอกลับมาบ้านก็อยากได้สินค้าแบบเดียวกันรวมถึงสินค้าอื่นๆด้วย”
ทูตปิงกล่าวต่อไปว่า แม้งาน Catch of Canada เน้นที่อาหารทะเลแต่ในเวลาเดียวกันก็มีงานส่งเสริมการค้า Taste of Canada ที่กูร์เมต์มาร์เก็ตทั้งสี่แห่ง มีเชอร์รี บลูเบอร์รี เมเปิลไซรัป ไอซ์ไวน์มาจำหน่าย และเป็นครั้งแรกที่แคนาดานำเวย์โปรตีนพรีเมียมเข้าสู่ตลาดไทย เพื่อตอบสนองความต้องการรับประทานโปรตีนที่เพิ่มมากขึ้น
- ความท้าทายใหญ่สุด
ความท้าทายใหญ่สุดของสินค้าแคนาดาในตลาดไทยทูตเผยว่าเป็นเรื่องของ “การรับรู้แบรนด์”
“ผู้คนรู้จักแคนาดาว่าเป็นผู้ผลิตอาหารและสินค้าเกษตรใหญ่สุดประเทศหนึ่งของโลก แต่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในตลาดไทย เพราะคุณใกล้กับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือยุโรปมากกว่า เราห่างไกลกันมาก และเมื่อคุณมองไปยังตลาดอเมริกาเหนือ คนก็มักคิดถึงสหรัฐเพราะประวัติศาสตร์และการเชื่อมต่อดังนั้นจึงเป็นเรื่องของการรับรู้แบรนด์ล้วนๆ” ทูตปิงกล่าวทิ้งท้าย
- รู้จัก IPAAO
ปี 2024 แคนาดาก่อตั้ง IPAAO ขึ้นที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นการส่งสัญญาณแห่งความมุ่งมั่นในระยะยาวของแคนาดาต่อภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ควบคู่ไปกับความสำคัญในการสร้างชื่อเสียงของประเทศในฐานะผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหารเกษตร และอาหารทะเลที่มั่นคงและเชื่อถือได้
IPAAO เป็นองค์ประกอบหนึ่งของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกที่แคนาดาเปิดตัวในวันที่ 27 พ.ย.2022 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แคนาดาคว้าโอกาสที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค ด้วยการเข้ามีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นและกระชับความเป็นหุ้นส่วนอย่างลึกซึ้งทั้งด้านการทูต ความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- ภาพรวมการค้าไทย-แคนาดา
-ไทยเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับสองในอาเซียน
-การค้าสินค้าเพิ่มจาก 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 มาอยู่ที่ 6.35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
-แคนาดาส่งออกสินค้ามูลค่า 1.03 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 (1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023) สินค้าสำคัญคือเยื่อไม้ ปุ๋ย และซีเรียล
-แคนาดานำเข้าสินค้ามูลค่า 5.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 (4.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023) สินค้าสำคัญคืออุปกรณ์ไฟฟ้า เนื้อสัตว์และปลาแปรรูป ยางพารา อัญมณีและแร่ธาตุ
-การบริการทวิภาคีมูลค่า 522 ล้านดอลลาร์ในปี 2023
-ปี 2023 แคนาดาลงทุนโดยตรงในไทยรวม 522 ล้านดอลลาร์ (355 ล้านดอลลาร์ในปี 2022)
-ปี 2023 ไทยลงทุนโดยตรงในแคนาดา 540 ล้านดอลลาร์ (537 ล้านดอลลาร์ในปี 2022)







