ญี่ปุ่นทุ่ม 2 ล้านล้านบาท! ลงทุน AI–ชิป–สตาร์ตอัปในอินเดีย

‘ญี่ปุ่น’ เดินหน้ากระชับสัมพันธ์ ‘อินเดีย’ ครั้งใหญ่ เตรียมลงทุนกว่า 2.2 ล้านล้านบาทใน 10 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ AI เซมิคอนดักเตอร์ สิ่งแวดล้อม การแพทย์ ไปจนถึงสตาร์ตอัป พร้อมดึงบุคลากรผู้เชี่ยวชาญชาวอินเดียเข้าสู่ตลาดแรงงานญี่ปุ่นเพิ่มเท่าตัว รองรับการขาดแคลนแรงงาน
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า “ชิเงรุ อิชิบะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมเปิดแผนการลงทุนมูลค่า 68,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ “อินเดีย” ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ระหว่างการประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้
การลงทุนดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทญี่ปุ่นในสาขาต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์และเซมิคอนดักเตอร์ สามารถขยายธุรกิจเข้าสู่อินเดียได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทในญี่ปุ่นก็จะเปิดรับแรงงานผู้เชี่ยวชาญชาวอินเดียเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอินเดีย ผ่านการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีโมดี จะเดินทางถึงญี่ปุ่นในวันศุกร์ โดยผู้นำทั้งสองมีแผนที่จะปรับปรุงถ้อยแถลงร่วม ด้านความมั่นคงระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรก ในรอบ 17 ปี
โตเกียว และนิวเดลีวางแผนความร่วมมือในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการลงทุนมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท จากญี่ปุ่น โดยโครงการนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 8 สาขาสำคัญ ได้แก่ การคมนาคม ขนส่ง สิ่งแวดล้อม และการแพทย์
การหารือจะครอบคลุมถึงการสร้างโครงการแลกเปลี่ยนนักวิจัยรุ่นใหม่ในสาขาปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้ข้อตกลงที่เรียกว่า “โครงการความร่วมมือด้าน AI” ซึ่งยังรวมถึงแผนการนำแอปพลิเคชัน AI มาใช้แก้ไขปัญหาสังคมด้วย
ขณะเดียวกัน นิวเดลีให้ความสนใจในจุดแข็งของญี่ปุ่นด้านวัสดุ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอิชิบะ และโมดีจะเยี่ยมชม “โรงงานผู้ผลิตอุปกรณ์ทำชิป” ของบริษัทโตเกียวอิเล็กตรอน ในจังหวัดมิยากิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในวันเสาร์นี้ ทั้งสองจะเยี่ยมชมศูนย์ฝึกอบรมที่บริษัทใช้สำหรับลูกค้า ถือเป็นโอกาสที่ฝั่งญี่ปุ่น จะแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีของตน
ไม่เพียงเท่านั้น ญี่ปุ่นจะเพิ่มการลงทุนโดยใช้ความช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนสตาร์ตอัปที่พยายามบุกเข้าสู่ตลาดอินเดีย โดยที่ผ่านมาหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้มีส่วนร่วมในการปล่อยกู้เป็นเงินเยนให้กับสตาร์ตอัปในรัฐเตลังคานาของอินเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางไอที
จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่า จะประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะขั้นสูงด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีการประเมินว่าจะมีช่องว่างมากถึง 790,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2030 ขณะที่อินเดียมีนักศึกษาด้านวิศวกรรมจบการศึกษาปีละราว 1.5 ล้านคน
ด้วยเหตุนี้ อิชิบะจึงเตรียมประกาศเจตนารมณ์ของโตเกียวในการรับบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านชิป และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีชาวอินเดียที่มีทักษะเฉพาะทางจำนวน 25,000 คนเข้ามาทำงาน หรือต่อการศึกษา และการฝึกอบรมในญี่ปุ่น
อิชิบะระบุว่า ญี่ปุ่นจะเพิ่มจำนวนดังกล่าวเป็นสองเท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับบริษัทในญี่ปุ่น ที่กำลังเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานในประเทศ
ด้านบริษัท Sompo Care ผู้ให้บริการด้านการดูแลผู้สูงอายุ ได้เริ่มจ้าง และฝึกอบรมแรงงานจากอินเดีย โดยพนักงานรุ่นแรกเริ่มทำงานในญี่ปุ่นแล้ว หลังจากผ่านการฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกซึ่งบริษัทตั้งขึ้นในอินเดียเมื่อปี 2024
ขณะเดียวกัน บริษัทพลังงาน Sekisho ก็กำลังดำเนินโครงการจับคู่ระหว่างนักศึกษาชาวอินเดียกับธุรกิจญี่ปุ่น ในเดือนนี้ Sekisho ได้จัดตั้งบริษัทในอินเดีย และให้การสนับสนุนหลายด้านแก่นักศึกษาและบริษัทญี่ปุ่น รวมถึงการเรียนภาษาญี่ปุ่น และการจัดหางาน โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทท้องถิ่นในญี่ปุ่น
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







