หนีร้อนไปพึ่งเย็น เทรนด์ท่องเที่ยวยุโรปท่ามกลางสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

หนีร้อนไปพึ่งเย็น เทรนด์ท่องเที่ยวยุโรปท่ามกลางสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

ท่ามกลางข่าวไฟป่าระอุหลายประเทศยุโรปปีนี้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูร้อนที่เดิมๆไปหาที่เย็น เงียบ คนน้อย ด้วยความวิตกกังวลเรื่องความร้อนและไฟป่า

ท่ามกลางข่าวไฟป่าระอุหลายประเทศยุโรปปีนี้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนใจจาก สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ฤดูร้อน ที่เดิมๆไปหาที่เย็น เงียบ คนน้อย ด้วยความวิตกกังวลเรื่องความร้อนและไฟป่า

เทรนด์ท่องเที่ยว นี้ตอกย้ำถึงปรากฏการณ์ “หนีร้อนไปพึ่งเย็น” หรือ “coolcations” ซึ่งเป็นการผสมระหว่างคำว่า cool กับ vacation หมายถึง การที่นักท่องเที่ยวแสวงหาสถานที่เย็นสดชื่น

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทั่วยุโรปอากาศร้อนทุบสถิติ หลายพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โหมกระพือไฟป่าในภูมิภาค

เจนนี เซาแทน ซีอีโอโกลบเทรนเดอร์ บริษัทคาดการณ์ แนวโน้มท่องเที่ยว เรียกฤดูร้อนของปี 2025 เป็น

“จุดเปลี่ยนของการท่องเที่ยวยุโรปตอกย้ำว่า ไม่มีสถานที่ใดทนทานกับความผันผวนของสภาพภูมิอากาศได้”

ความร้อนสุดขั้วมีแนวโน้มเกิดบ่อยขึ้นจาก วิกฤติสภาพอากาศ ปัจจัยสำคัญมาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล

คลื่นความร้อนและไฟป่าทั่วแหล่งพักผ่อนยอดนิยมในสเปน โปรตุเกส และกรีซสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่นช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ต้องปิดชายหาดและอพยพผู้คนขนานใหญ่

เซาแทนกล่าวว่า อุณหภูมิสูงจนน่าเป็นห่วงยังเกิดขึ้นในประเทศนอร์ดิกอย่างนอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ด้วย ชี้ให้เห็นว่า ยุโรปเหนือ “ไม่ใช่แหล่งรับประกัน” หนีภัยในช่วงฤดูร้อนสูงสุดได้อีก

สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางของผู้คน นักท่องเที่ยวเลี่ยงเดินทางช่วงร้อนสุดๆ, นิยมไปชายหาดหรือภูเขาที่อากาศเย็นกว่า, เดินทางในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง และไปเยือนพื้นที่ตอนเหนืออย่างบอลติกและที่ราบสูงสก็อตแลนด์

หนีร้อนไปพึ่งเย็น เทรนด์ท่องเที่ยวยุโรปท่ามกลางสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

แหล่งท่องเที่ยวนอกกระแส

คณะกรรมาธิการท่องเที่ยวยุโรป (อีทีซี) เผยแพร่ข้อมูลในเดือนที่ผ่านมา ระบุว่า แม้เศรษฐกิจไม่แน่นอน ชาวยุโรปยังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่ง

แต่ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเรื่องคนหนาแน่นทำให้ฤดูร้อนปีนี้นักท่องเที่ยวเลือกไปในที่ที่คนไม่ค่อยนิยม ความสนใจแหล่งท่องเที่ยวดั้งเดิมลดลง

“ข้อมูลล่าสุดของเราชี้ว่า ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและสังคม ชาวยุโรปไม่ยอมผ่อนปรนเรื่องการเดินทาง พวกเขาชอบไปที่เงียบๆ และเดินทางนอกฤดูท่องเที่ยว” มิเกล ซานส์ ประธานอีทีซีกล่าว

ผลสำรวจล่าสุดของ Virtuoso เครือข่ายเดินทางโลก  ผู้ให้ข้อมูล 79% เห็นด้วยว่า สภาพอากาศรุนแรงส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทาง 55% กล่าวว่า ลูกค้าของพวกเขาเลือกเดินทางนอกฤดูร้อนเนื่องจากวิกฤติสภาพอากาศ

นิโคลัส สมิธ ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลวันหยุดบริษัทโธมัส คุก และบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ eSky Group กล่าวว่า ฤดูร้อนปีนี้มีตัวเลือกพุ่งขึ้นมาก

“เทรนด์หนึ่งที่เติบโตเร็วสุดในหมู่นักเดินทางอังกฤษคือ ‘หนีร้อนไปพึ่งเย็น’ หนีอากาศร้อนสุดขีดไปเที่ยวที่ที่เย็นสบายกว่า”

จุดหมายปลายทางยุโรป อย่างไอซ์แลนด์ นอร์เวย สวิตเซอร์แลนด์ และโปแลนด์ที่กำลังนิยม เป็นหนึ่งในจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้ต้องการพักผ่อนอย่างมีชีวิตชีวา ท่ามกลางอากาศสบายๆ “และได้ประสบการณ์ลึกซึ้งแท้จริง” สมิธกล่าว

อีกหนึ่งผู้ชนะที่ผงาดขึ้นมาจากเทรนด์หนีร้อนไปพึ่งเย็นคือสโลวีเนีย ประเทศเล็กๆ ในเอเชียกลาง ที่ผู้คนสนใจไปเที่ยวในพื้นที่สูงอากาศเย็นเพิ่มมากขึ้น

“เนื่องจากอุณหภูมิฤดูร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งความต้องการใช้เวลาพักผ่อนในธรรมชาติอย่างมีคุณภาพก็เพิ่มขึ้น ผู้มาเยือนจึงนิยมเลือกพื้นที่สูง ที่ให้ประสบการณ์หลากหลายเที่ยวได้ตลอดทั้งปี” โฆษกคณะกรรมการการท่องเที่ยวสโลวีเนียกล่าวกับซีเอ็นบีซี

ความท้าทายยังคงอยู่

แม้เทรนด์การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไปอาจช่วยลดนักท่องเที่ยวล้นเมืองในปลายทางยอดนิยมของยุโรปได้บ้าง แต่กระแสหนีร้อนมาพึ่งเย็นก็อาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจตามมา

ประเทศยุโรปใต้อย่างกรีซ สเปน และโปรตุเกสพึ่งพาการท่องเที่ยวหนักมาก ตัวเลขล่าสุดชี้ว่า ภาคการท่องเที่ยวของทั้งสามประเทศมีส่วนสร้างผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่18%,12.3% และ11.9% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ลินดา จอนซิค โฆษกทียูไอ บริษัททัวร์ใหญ่สุดของยุโรป กล่าวว่า บริษัทเห็นความสนใจในกลุ่มประเทศนอร์ดิกอย่างไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดนเพิ่มมากขึ้นจากเทรนด์หนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ยอดจองยังคงต่ำเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูร้อนที่เดิมๆ

“ชายหาดและดวงอาทิตย์คลาสสิกแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่มาก สเปน กรีซ และตุรกี ยังเป็นแหล่งโปรดไม่มีที่ไหนเทียบเทียมได้”

หนีร้อนไปพึ่งเย็น เทรนด์ท่องเที่ยวยุโรปท่ามกลางสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

ในส่วนนี้สำนักงานการท่องเที่ยวโปรตุเกสเผยว่า ความต้องการมาเที่ยวในฤดูร้อนยังแข็งแกร่ง แม้พื้นที่ทางภาคเหนือและภาคกลางกำลังรับมือกับไฟป่า แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้รับผลกระทบ

“โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวของโปรตุเกสเตรียมการมาอย่างดีเพื่อรับมือความท้าทายดังกล่าว มีมาตรการฉุกเฉินเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะเกิดความปั่นป่วนน้อยที่สุด”

“สนามบินและท่าเรือทั่วประเทศดำเนินการเต็มขีดความสามารถ ภาคการท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง ด้วยตัวเลขผู้มาเยือนพื้นที่สำคัญในฤดูร้อนนี้เท่าหรือแซงหน้าตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว”

พื้นที่เสี่ยงด้านภูมิอากาศ

เซาแทนจากโกลบเทรนเดอร์คาดว่า เทรนด์หนีร้อนมาพึ่งเย็น จะเข้มข้นขึ้นในปีต่อๆ ไป ภายในทศวรรษ 2020 ฤดูท่องเที่ยวเมดิเตอร์เรเนียนจะเปลี่ยนมาเป็นเดือน พ.ค.-มิ.ย. และ ก.ย.-ต.ค. ขณะที่เดือน ก.ค.-ส.ค. “กลายเป็น ‘เขตเสี่ยงด้านสภาพอากาศ’ สำหรับการท่องเที่ยวของคนจำนวนมาก”

“จุดหมายทางใต้จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานกับสภาพอากาศมากขึ้น เช่น พื้นที่บังแดด โรงแรมปรับเข้ากับความร้อนได้ และฉนวนป้องกันไฟป่า พร้อมๆ กับส่งเสริมประสบการณ์อื่นๆ นอกเหนือไปจากการชื่นชมแสงอาทิตย์เที่ยงวัน” เซาแทนกล่าว

“ขณะเดียวกัน ยุโรปเหนือที่เคยเป็นที่หลบร้อนของคนไม่มากอาจจำเป็นต้องจัดการกับ “ภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมือง” ในรูปแบบของตัวเอง เนื่องจากฤดูร้อนที่ร้อนขึ้นเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความต้องการ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวการปรับตัวให้เข้ากับภาวะปกติใหม่นี้ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่มันคือความแตกต่างระหว่างการเติบโตท่ามกลางสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกับการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” เซาแทนให้ความเห็น