ไทยวางลวดหนามบ้านหนองจานเพื่อปกป้องอธิปไตยไม่ละเมิด GBC

กระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา กรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ระบุเคยใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบแล้วขยายชุมชนออกไป
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้วว่า พื้นที่บ้านหนองจาน เดิมเคยใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยจากการสู้รบในอดีตเข้ามาในประเทศไทย และต่อมา ฝ่ายกัมพูชาได้ขยายชุมชนออกไป ถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU43 (Memorandum of Understanding: MOU) ปี 2543
โดยฝ่ายไทยได้คัดค้านและดำเนินการประท้วงการล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทยดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ
ในส่วนของการวางลวดหนามในเขตแดนไทย เป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย และป้องกันการเข้ามาวางทุ่นระเบิดโดยฝ่ายกัมพูชา
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวก็ไม่ขัดต่อข้อตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะละเว้นจากการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหารหรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารล้ำออกไปนอกเขตของฝ่ายตน
นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 - 47 ซึ่งเป็นแนวเขตแดนที่เป็นไปตาม สนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1907 มีแนวเป็นเส้นตรง
เมื่อปี 2524 ไทยอนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) จัดตั้งศูนย์อพยพชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อมนุษยธรรมให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศกัมพูชา ตามที่ UNHCR ร้องขอ โดยทหารไทยได้จัดทำแนวรั้วเพื่อจำกัดเขตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ดี เมื่อสงครามยุติลงแล้ว ในช่วงปี 2542 ชาวกัมพูชาได้เข้ามาก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขยายที่ดินทำกินจนขยายออกนอกแนวรั้วที่ฝ่ายไทยทำไว้
ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยมีการจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปัญหาเขตแดนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ดูแลเพื่อไม่ให้ราษฎรชาวกัมพูชาขยายพื้นที่ทำกิน และหารือเจรจาร่วมกับฝ่ายกัมพูชาอย่างสันติรวมทั้งเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในบริเวณดังกล่าว
เมื่อวันที่ 28 - 30 สิงหาคม 2545 กระทรวงฯ และกรมแผนที่ทหารได้มีการหารือร่วมกับนาย Var Kim Hong ประธานการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ของกัมพูชาในขณะนั้น โดยฝ่ายไทยขอให้ราษฎรชาวกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ก่อน
เมื่อเดือนกันยายน 2560 กระทรวงฯ ได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบริเวณบ้านหนองจาน มีการชักธงชาติกัมพูชาและจัดตั้งหน่วยงานทางการของกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตย และละเมิดข้อ 5 ของ MOU 2543 จึงขอให้ปลดธงชาติและย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด
พื้นที่บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม การที่ชุมชนขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ไทยไม่ได้ยอมรับ และไม่กระทบกับการปักปันเขตแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นประเด็นสังคมในวงกว้าง เนื่องจากฝ่ายไทยรับทราบมาตลอดว่า ให้ชาวกัมพูชาหนีภัยเข้ามาอาศัยชั่วคราว แต่เมื่อฝ่ายกัมพูชาออกมากล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ก็มีความจำเป็น เป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยต้องประท้วงและชี้แจงข้อเท็จจริง







