ทรัมป์ยอมถอยไม่ขึ้นภาษียา อียูสูง 250% หลังสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง

ทรัมป์ยอมถอยไม่ขึ้นภาษียา อียูสูง 250% หลังสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง

สหรัฐ และสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงในรายละเอียดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ ยา และอื่นๆ โดยจำกัดอัตราภาษีไว้ที่ 15% หลังทรัมป์เคยขู่จะขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์สูง 100% ยา 250%

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (21 ส.ค.68) ที่ผ่านมา สหรัฐ และสหภาพยุโรปได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบการค้า รวมถึงภาษีนำเข้ายา และเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกัน และถูกจับตามองอย่างมาก

หลังจากการเจรจาอย่างดุเดือดมาหลายสัปดาห์ ในที่สุดบรัสเซลส์ และวอชิงตันก็ได้บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบเหมาจ่าย 15% สำหรับสินค้าส่งออกของสหภาพยุโรปไปยังสหรัฐ ภายใต้ข้อตกลงนี้ สหภาพยุโรปยังให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าพลังงานจากสหรัฐ มูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และลงทุนเพิ่มเติมอย่างน้อย 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐ

ผู้นำทางการเมือง และธุรกิจหลายคนในยุโรปในขณะนั้นแสดงความกังวลเกี่ยวกับความไม่สมดุลของข้อตกลงนี้ คำถามหลายข้อยังคงไม่ได้รับคำตอบ รวมถึงอัตราภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้กำหนดไว้ในมาตรการภาษีนำเข้า

ในที่สุดการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี ก็ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ในขณะที่คู่ค้ารายอื่นๆ หลายรายยังคงรอคอย และเจรจาเพื่อความชัดเจนในข้อตกลงการค้าของตนกับสหรัฐ

หลังจากการประกาศ นายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันพฤหัสบดีว่า “นี่คือข้อตกลงการค้าที่ดีที่สุดที่สหรัฐ เสนอให้กับคู่ค้า”

“แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด นี่คือจุดเริ่มต้น กรอบการทำงานนี้เป็นก้าวแรก ซึ่งสามารถขยายออกไปได้ในอนาคตเพื่อครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ มากขึ้น ปรับปรุงการเข้าถึงตลาด และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” เขากล่าวเสริม

  • ไม้แปรรูป เทคโนโลยี และกฎระเบียบ

ประเด็นสำคัญในแถลงการณ์ประกอบด้วย การที่สหรัฐ ให้คำมั่นที่จะ “ใช้อัตราภาษีที่สูงกว่าระหว่างอัตราภาษีประเทศที่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favoure Nation Treatment: MFN) ของสหรัฐอเมริกา หรืออัตราภาษี 15% ซึ่งประกอบด้วยภาษี MFN และภาษีตอบโต้ สำหรับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดจากสหภาพยุโรป”

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป สหรัฐจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป MFN เฉพาะสินค้าบางรายการเท่านั้น ซึ่งรวมถึง “ทรัพยากรธรรมชาติที่หาไม่ได้ (รวมถึงไม้คอร์ก) อากาศยาน และชิ้นส่วนอากาศยานทั้งหมด ยาสามัญ และส่วนประกอบ รวมถึงสารตั้งต้นทางเคมี”

ภาษีนำเข้าตามมาตรา 232 หลายรายการถูกจำกัดไว้ที่อัตราภาษี 15% ซึ่งรวมถึงภาษีนำเข้าไม้แปรรูป เซมิคอนดักเตอร์ และยา ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบริหารของสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษีที่ทรัมป์เคยขู่ไว้อย่างมาก รวมถึงภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ 100%

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ยังระบุว่าสหภาพยุโรปตั้งใจที่จะ “ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมดของสหรัฐ และให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดสำหรับอาหารทะเล และสินค้าเกษตรของสหรัฐ ที่หลากหลาย” ซึ่งกรอบการทำงานเบื้องต้นได้ครอบคลุมเรื่องนี้ไว้อย่างครอบคลุมแล้ว แถลงการณ์ฉบับนี้ยังระบุข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาการจัดซื้อ และการลงทุนด้านพลังงานของสหภาพยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากข้อตกลงไม่เกิดขึ้นจริง

ประกาศล่าสุดย้ำตัวเลขการใช้จ่ายตามแผนของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงชิปปัญญาประดิษฐ์ พลังงาน และการลงทุนในวงกว้างในสหรัฐ แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบริหารท่านหนึ่งระบุว่า ตัวเลขเหล่านี้เป็นไปตามที่ตั้งใจ และคาดการณ์ไว้ มากกว่าจะเป็นคำมั่นสัญญาที่รับประกัน

 

แถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ยังระบุถึงแผนการที่สหภาพยุโรปจะเพิ่มการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการป้องกันประเทศของสหรัฐ อย่างมาก แม้ว่ายุโรปจะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศของตนเองก็ตาม

ที่น่าสังเกตคือ ข้อตกลงล่าสุดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติบริการดิจิทัลของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบสำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และเป็นประเด็นที่ทรัมป์ถกเถียงกันมานานในการเจรจาการค้า

 

เซฟโควิช ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าภาคส่วนดิจิทัลไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาการค้า เขายังได้กล่าวถึงคำถามเกี่ยวกับภาคส่วนไวน์ และสุรา ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อตกลง กรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรประบุว่า แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบรรลุข้อตกลงในประเด็นนี้กับวอชิงตัน แต่ “ประตูเหล่านี้ไม่ได้ปิดตายไปตลอดกาล”

  • ภาษีเภสัชภัณฑ์

ภาคเภสัชภัณฑ์ของยุโรป ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้ายารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ จะถูกจำกัดอัตราภาษีไว้ที่ 15%  ที่สำคัญคือ อัตราภาษีนี้จะไม่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราภาษีอื่นๆ ทั่วทั้งสหภาพยุโรป

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน รัฐบาลทรัมป์ได้ตกลงที่จะใช้นโยบายกำหนดราคายาตามหลัก MFN กับยาสามัญ คำสั่งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดราคายาของสหรัฐ โดยเชื่อมโยงกับราคาที่ปกติแล้วประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ จ่ายต่ำกว่า

 

ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน รัฐบาลทรัมป์ได้เริ่มการสอบสวนตามกฎหมายการค้ามาตรา 232 เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยา เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการนำเข้าต่อความมั่นคงของชาติ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีสูงถึง 250% ต่อภาคเภสัชภัณฑ์ และส่งคำขาดไปยังบริษัทใหญ่ๆ เพื่อเรียกร้องให้ลดราคายาของสหรัฐ

ผู้นำทำเนียบขาวได้วิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมยานี้มาอย่างยาวนานถึงสิ่งที่เขาเรียกว่าการ “ตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม” ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อพยายามกระตุ้นการผลิตยาภายในประเทศ

 

เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้บริษัทยาหลายบริษัทประกาศจะลงทุนในสหรัฐ อย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการลงทุนจาก Novartis, AstraZeneca และ Roche รวมถึงการปรับราคายาจาก Novo Nordisk และ  Eli Lilly

  • ภาษีรถยนต์

 

เมื่อวันพฤหัสบดี สหรัฐ และสหภาพยุโรป ได้ตกลงกันที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ และชิ้นส่วนจากยุโรปในอัตรา 15% โดยมีเงื่อนไข โดยจะจัดเก็บหลังจากที่บรัสเซลส์ออกกฎหมายเพื่อลดภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐแล้วเท่านั้น ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูง

 

เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่า เพียงแค่การออกกฎหมายของสหภาพยุโรปเพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมก็เพียงพอที่จะเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนทางการค้านี้แล้ว สหรัฐ และสหภาพยุโรประบุในแถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีว่า “ในส่วนของรถยนต์ สหรัฐ และสหภาพยุโรปตั้งใจที่จะยอมรับ และให้การยอมรับในมาตรฐานของกันและกัน”

 

ภายใต้เงื่อนไขของกรอบการค้าที่ตกลงกันไว้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม สหภาพยุโรปกล่าวว่า จะยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมจากสหรัฐ ที่ “อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว”

 

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมข้อตกลงกรอบการค้าที่เปิดเผยครั้งแรกนี้ว่าเป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นข้อตกลงที่ให้คำมั่นว่าจะ “ดีต่ออุตสาหกรรมรถยนต์”

 

แนวโน้มอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ 15% ถือเป็นอัตราที่ลดลงอย่างมากจากคำขู่ของประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูง 30% นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับภาคยานยนต์ของยุโรปลงเกือบครึ่งหนึ่งจาก 27.5%ในปัจจุบัน

 

ก่อนหน้านี้ กลุ่มอุตสาหกรรมได้แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับต้นทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากกำแพงภาษีนำเข้า

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งเยอรมนี (VDA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทมากกว่า 620 แห่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี เตือนว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐ ที่ 15% จะ "ทำให้บริษัทยานยนต์ของเยอรมนีต้องสูญเสียรายได้หลายพันล้านยูโรต่อปี และเป็นภาระแก่พวกเขาในระหว่างการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรม"

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์