สหรัฐเอาไงแน่? ทำเนียบขาวเปิดบัญชี Tiktok โปรโมตทรัมป์ สร้างความสันสนแบนแอปจีน

สหรัฐเอาไงแน่? ทำเนียบขาวเปิดบัญชี Tiktok โปรโมตทรัมป์ สร้างความสันสนแบนแอปจีน

ทำเนียบขาวเปิดบัญชี Tiktok อยา่งเป็นทางการ หวังโปรโมตงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ท่ามกลางความสันสนว่าสหรัฐจะแบนแอปจีนหรือไม่ ขณะที่เส้นตายแบนแอปจีนล่าสุดใกล้เข้ามาแล้ว

เชื่อว่าชาวติ๊กต๊อกเกอร์ไม่ใช่แค่ในสหรัฐ แต่ทั่วโลกต้องแปลกใจกันทั้งบาง เมื่อทำเนียบขาวเปิดบัญชีติ๊กต๊อกอย่างเป็นทางการ "@whitehouse" โพสต์คลิปแรกพร้อมแคปชัน “เรากลับมาแล้ว! ว่าไงติ๊กต๊อก

ทำเนียบขาวโพสต์คลิปแรกเมื่อเวลาราว 05.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และ ณ เวลา 13.30 น. ยอดวิวคลิปแรกก็พุ่งถึง 483,000 วิวแล้ว พร้อมยอดกดหัวใจราว 78,900 หัวใจ ในคลิปแรกเป็นภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ .ใช้เพลงประกอบแนวปลุกใจ และมีเสียงทรัมป์บรรยายประกอบว่า “ทุกวันที่ผมตื่น ผมมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตผู้คนทั่วประเทศดีขึ้น” และทิ้งสโลแกนตอนจบว่า “ผมคือเสียงของคุณ”

สามชั่วโมงต่อมา หรือราว 08.00 น. ตามเวลาไทย ทำเนียบขาวก็โพสต์คลิปที่ 2 เป็นภาพเกี่ยวกับทำเนียบขาวและใส่แคปชันว่า “พวกเรามาแล้วจ้า” คลิปนี้มียอดเข้าชม ณ เวลาราว 13.35 น. ราว 177,800 วิว และยอดกดหัวใจประมาณ 18,700

ต่อมาทำเนียบขาวโพสต์คลิปที่ 3 เวลาราว 10.00 น. ตามเวลาไทย พร้อมใส่แคปชัน “ผมเคยถูกล่า แต่ตอนนี้ ผมเป็นผู้ล่าแล้ว” ซึ่งเป็นคำพูดที่ปธน.ทรัมป์เคยพูดกับสื่อ และในคลิปนี้ก็มีคำพูดของทรัมป์ที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างมาก่อนหลายคำพูด คลิปนี้มียอดชม ณ เวลา 13.35 น. ราว 104,900 วิว และยอดกดหัวใจ 7,150 

ท็อปคอมเมนท์ส่วนใหญ่แสดงความเห็นในเชิงสับสน และสงสัย ว่าทำไมทำเนียบขาวตัดสินใจเปิดบัญชีติ๊กต็อกอย่างเป็นทาง ทั้งๆ ที่สหรัฐกำลังแบนแอปติ๊กต็อก ของบริษัทไบท์แดนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูล

บางคนก็ตั้งคำถามว่า ทำเนียบขาวซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาล สามารถทำแบบนี้ได้จริงหรือ หรือผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้สหรัฐได้จำกัดการใช้งานแอปดังกล่าวต่อข้าราชการและหน่วยงานราชการของสหรัฐ

ขณะที่ผู้ใช้งานบางคนถึงกับสงสัยว่าทำไมทำเนียบขาวลงวิดีโอที่ออกแนวตลก ขำขัน มากกว่าลงคลิปที่เป็นทางการ

ทั้งนี้ Tiktok  แอปจีนที่มีคนอเมริกันใช้งานมากกว่า 170 ล้านคน กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาถูกแบนจากสหรัฐ โดยกฎหมายปี 2024 กำหนดให้ติ๊กต๊อกต้องหยุดให้บริการภายในวันที่ 19 ม.ค. ปีนี้ ถ้าไบท์แดนซ์ไม่ขายกิจการให้สหรัฐ หรือแสดงความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการขายกิจการ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เขาเลือกที่จะไม่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และได้ขยายกำหนดเวลาตัดสินใจแบนแอปออกไปเป็นต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นเลื่อนเส้นตายเป็นวันที่ 19 มิ.ย. และเลื่อนอีกครั้งเป็นวันที่ 17 ก.ย.

สมาชิกรัฐสภาบางคนได้วิพากษ์วิจารณ์การเลื่อนกำหนดเส้นตายดังกล่าว โดยโต้แย้งว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังละเมิดกฎหมายและเพิกเฉยต่อความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติต่อแอปจีน

ทั้งนี้ ในระหว่างหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีก่อน บัญชีติ๊กต๊อกของทรัมป์ "@realdonaldtrump" มีผู้ติดตามมากถึง 15 ล้านคน และยอดวิวของคลิปส่วนใหญ่มากถึงหลักสิบล้าน ซึ่งสื่อหลายสำนักคาดว่าทรัมป์ใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อให้เข้าเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น

นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังใช้ Truth Social ส่งสารและเรื่องสำคัญต่างๆ เป็นหลัก และโพสต์เป็นครั้งคราวในแพลตฟอร์ม X

ด้านแคโรไล เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า “รัฐบาลทรัมป์มุ่งมั่นที่จะสื่อสารความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้มอบให้กับประชาชนชาวอเมริกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” และว่า “ข้อความของประธานาธิบดีทรัมป์มีอิทธิพลอย่างมากในติ๊กต๊อก ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะต่อยอดความสำเร็จเหล่านั้น และสื่อสารในรูปแบบที่รัฐบาลอื่นไม่เคยทำมาก่อน” โฆษกกล่าว