อีวีจีนเกิด ‘สตาร์ทอัพดาวรุ่ง’! ‘Leapmotor’ หุ้นพุ่ง 200% ยอดขาย ‘แซง’ คู่แข่ง

อีวีจีนเกิด ‘สตาร์ทอัพดาวรุ่ง’! ‘Leapmotor’ หุ้นพุ่ง 200% ยอดขาย ‘แซง’ คู่แข่ง

‘Leapmotor’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากหางโจว ที่เคยเป็นเพียงผู้เล่นเล็ก ๆ กำลังพลิกเกมขึ้นมาแซงหน้าสตาร์ทอัพคู่แข่งทั้งด้านยอดขายและราคาหุ้น ด้วยกลยุทธ์ ‘ผลิตเองเพื่อลดต้นทุน’ จนถูกมองว่าเป็น ‘Li Auto เวอร์ชันเข้าถึงได้’

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท “เจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ เทคโนโลยี จำกัด” (Zhejiang Leapmotor Technology) ที่เคยเป็นผู้เล่นเล็ก ๆ ริมขอบในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน กำลัง “แซงหน้าสตาร์ทอัพคู่แข่งทั้งหมด” ทั้งในด้านยอดขายและราคาหุ้นในปีนี้ และนักวิเคราะห์เชื่อว่ายังมีแรงหนุนให้เติบโตต่อไป

หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น สองเท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม แซงหน้าคู่แข่งที่เป็นที่รู้จักมากกว่าอย่าง XPeng และ Xiaomi โดยหุ้น Leapmotor ทะยานขึ้น “กว่า 200%” จากจุดต่ำสุดในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 

บริษัทได้ปรับเป้ายอดขายปี 2025 ขึ้นเป็น 500,000 คัน จากราว 290,000 คันเมื่อปีก่อน และคาดว่า จะสามารถทำกำไรประจำปีได้เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ลีปมอเตอร์ซึ่งก่อตั้งมาได้ 10 ปี ชนะใจนักลงทุนด้วยกลยุทธ์ “ชนะด้วยราคา” โดยการผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากด้วยตัวเองในโรงงาน พร้อมแรงขับเคลื่อนสำคัญจากพื้นฐานด้านอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ของจู เจียงหมิง ผู้ร่วมก่อตั้ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการวิจัยและพัฒนาของบริษัท

เซียว เฟิง หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรมจีนของ CLSA Hong Kong กล่าวว่า “ความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของลีปมอเตอร์ถือว่าน่าทึ่ง พวกเขานำเสนอรถขนาดใหญ่ ในราคาที่เข้าถึงตลาดมวลชนได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการบูรณาการการผลิต”

สำหรับ “Leapmotor” ก่อตั้งขึ้นที่เมืองหางโจวในปี 2015 โดยจู เจียงหมิง และ ฝู ลี่เฉวียน ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมกันสร้างบริษัทผลิตกล้องวงจรปิด Dahua Technology มาก่อน 

ในช่วงแรก ๆ ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ยังคงเป็นผู้เล่นรอง ยอดขายตามหลังห่างไกลจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง BYD รวมถึงสตาร์ทอัพที่มาก่อนหน้าอย่าง Xpeng และ Li Auto 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลีปมอเตอร์สามารถไล่ตามทัน คือ ความมุ่งมั่นของจูที่ผลักดันให้บริษัทพัฒนาชิ้นส่วนไฟฟ้าต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดต้นทุน กลยุทธ์นี้ทำให้แบรนด์ถูกขนานนามว่าเป็น “Li Auto เวอร์ชันเข้าถึงได้มากกว่า” เนื่องจากผลิต SUV ที่อยู่ในกลุ่มระดับกลางถึงพรีเมียมเช่นกัน แต่ราคาย่อมเยากว่า

เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัด รถเอสยูวีรุ่น C11 ของลีปมอเตอร์ ซึ่งเจาะตลาดครอบครัวและเปิดตัวช่วงปลายปี 2020 มีราคาขายเริ่มต้นเพียง 148,800 หยวน ขณะที่รถที่ถูกที่สุดของ Li Auto คือรุ่น L6 SUV มีราคาเริ่มต้นที่ 249,800 หยวน

โรซาลี เฉิน นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยระดับโลก Third Bridge กล่าวว่า “ลีปมอเตอร์พัฒนาและผลิตเกือบทุกอย่างด้วยตัวเอง ยกเว้นแบตเตอรี่ ทำให้บริษัทควบคุมต้นทุนได้มากกว่า”

เฉินกล่าวเสริมว่า “การบูรณาการการผลิตในลักษณะนี้ ช่วยให้ลีปมอเตอร์ได้เปรียบด้านต้นทุนเหนือคู่แข่งที่ยังพึ่งพาซัพพลายเออร์ภายนอกอย่างหนัก”

ไม่เพียงเท่านั้น การวางตำแหน่งแบรนด์ใน “ตลาดแมส” ของบริษัทถือว่าได้เปรียบอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์อย่างระมัดระวังด้านราคา ปัจจัยหนุนดังกล่าวช่วยให้ลีปมอเตอร์มียอดขายทะลุ 50,000 คันต่อเดือนเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม แม้ตัวยอดยังตามหลัง BYD ที่ทำได้ 344,296 คัน แต่ก็สูงกว่าสตาร์ทอัพคู่แข่งทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม แม้จะประสบความสำเร็จในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่มีหลักประกันว่า ลีปมอเตอร์จะสามารถรักษาแรงส่งการเติบโตเอาไว้ได้ในระยะยาว

อ้างอิง: bloomberg