ทรัมป์ลั่น ‘ยูเครน-รัสเซีย’ ต้องแลกดินแดนเพื่อสันติภาพ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (11 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ถึงการพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียที่อะแลสกา ในวันศุกร์ (15 ส.ค.) ว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” เพื่อทดสอบว่าปูตินยินดีทำข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งเขาจะรู้ได้ภายในสองนาทีว่ามีโอกาสคืบหน้าหรือไม่

“ดังนั้นผมจะคุยกับวลาดิมีร์ ปูติน บอกเขาว่า คุณต้องยุติสงครามนี้ คุณต้องยุติมัน” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว และว่าการพูดคุยในอนาคตอาจมีประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนด้วย และอาจจบลงด้วยการประชุมสามฝ่ายที่มีเขากับปูตินเข้าร่วม หลังจากคุยกับปูตินแล้วเขาจะคุยกับผู้นำยุโรปทันที เป้าหมายคือหยุดยิงในความขัดแย้งนองเลือดนี้โดยเร็ว

ในอดีตทรัมป์เคยพูดถึงการแลกดินแดนเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง แต่รัสเซียและยูเครนไม่มีใครสนใจ ยุโรปเองก็กังวลว่าการยอมให้รัสเซียมากอาจสร้างปัญหาความมั่นคงให้ชาติตะวันตกในอนาคต

สงครามนองเลือดที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ.2022 รัสเซียอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงจากการที่ยูเครนเอนเอียงไปหาชาติตะวันตก ด้านรัฐบาลเคียฟและพันธมิตรตะวันตกกล่าวว่า การรุกรานเป็นการแย่งชิงดินแดนแบบอาณานิคม

ปัจจุบันรัสเซียยึดครองดินแดนราวหนึ่งในห้าของยูเครน ขณะที่ยูเครนแทบไม่ได้ยึดพื้นที่ใดๆ ของรัสเซียเลย

ทรัมป์ระบุ “จะมีการแลกดินแดนกันบางส่วน ผมรู้ผ่านรัสเซีย ผ่านการสนทนากับทุกคน จะเป็นเรื่องดีกับยูเครน” ทรัมป์กล่าวและว่ารัสเซียยึด “ดินแดนสำคัญมาก” เอาไว้ส่วนหนึ่ง แต่ “เราจะพยายามเอาดินแดนนั้นกลับมาบางส่วน”