ทรัมป์เด้ง ‘หัวหน้ากรมสรรพากร’ ดันมือขวาเบสเซนท์ รักษาการแทน

ทรัมป์เด้ง ‘หัวหน้ากรมสรรพากร’ ดันมือขวาเบสเซนท์ รักษาการแทน

ทรัมป์ปลด ‘หัวหน้ากรมสรรพากร’ หลังเพิ่งรับตำแหน่งไม่นาน พร้อมดัน ‘สก็อต เบสเซนท์’ รมว.คลัง นั่งรักษาการ ท่ามกลางศึกภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ และการปฏิรูประบบจัดเก็บรายได้ของประเทศ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปลด “บิลลี ลอง” ออกจากตำแหน่ง “หัวหน้ากรมสรรพากรสหรัฐ” (IRS) และจะให้ สก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เข้ารับตำแหน่งชั่วคราวแทน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว 3 รายที่เปิดเผยกับสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์

การเปลี่ยนตัวครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ของทรัมป์มีผลบังคับใช้ และ 1 เดือนหลังจากที่ประธานาธิบดีลงนามในกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานรับใช้เพื่อนของผม ประธานาธิบดีทรัมป์ และผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มบทบาทใหม่ในฐานะเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำไอซ์แลนด์ ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้ตอบรับคำชวนให้รับใช้ประเทศ และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันวาระอันกล้าหาญของเขา เวลาที่น่าตื่นเต้นกำลังรออยู่ข้างหน้า!” ลองกล่าวในข้อความถึงเอ็นบีซี นิวส์

ทั้งนี้ การแต่งตั้งให้ดูแลกรมสรรพากรชั่วคราวครั้งนี้ จะเพิ่มภาระงานให้กับเบสเซนท์ ซึ่งมีหน้าที่อยู่แล้วในการดูแลการเจรจาการค้ากับจีน แคนาดา และเม็กซิโก รวมถึงประเทศอื่น ๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอัตราภาษีนำเข้า 

นอกจากนี้ เบสเซนท์ยังมีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหาประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนต่อไปด้วย โดยกรมสรรพากรสหรัฐ (IRS) เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง

ด้านโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวในแถลงการณ์ว่า “กระทรวงการคลังขอขอบคุณหัวหน้าลองสำหรับความทุ่มเทต่อการรับใช้สาธารณะและประชาชนชาวอเมริกัน ความกระตือรือร้นและพลังของเขาในการนำมุมมองใหม่เข้าสู่รัฐบาลกลาง ปรากฏชัดทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐบาลทรัมป์”

โฆษกยังกล่าวเสริมว่า “ผู้สมัครคนใหม่สำหรับหัวหน้ากรมสรรพากร จะถูกประกาศในเวลาที่เหมาะสม”

ก่อนที่จะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากรมสรรพากร ลองเคยเป็นสมาชิกรัฐสภาจากรัฐมิสซูรีระหว่างปี 2011 ถึง 2023 และก่อนเข้าสู่การเมือง เขาเคยทำงานเป็นผู้จัดการประมูลมาก่อน

ภายใต้การบริหารของรัฐบาลทรัมป์ กรมสรรพากรเผชิญกับการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันโดย “กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล” ที่นำโดยอีลอน มัสก์

สำหรับรัฐบาลของทรัมป์ กำลังปรับโฉมวิธีจัดเก็บรายได้ของประเทศ จากภาษีนำเข้า เป็นเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน จนถึงขณะนี้ในปีนี้ ผู้นำเข้าซึ่งรวมถึงทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ของสหรัฐ ได้จ่ายภาษีศุลกากรรวมกันแล้วกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.2 ล้านล้านบาทให้แก่รัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ ทรัมป์เคยให้คำมั่นว่าจะจัดตั้ง “หน่วยงานจัดเก็บรายได้ภายนอก” เพื่อเก็บรายได้จากภาษีนำเข้าเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันภารกิจดังกล่าว ยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังและสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน 



อ้างอิง: cnbc