ภาษีทรัมป์ฉุดรถญี่ปุ่น 'Honda' กำไรไตรมาสแรกร่วงยับ 50%

Honda เผยผลประกอบการไตรมาสแรก กำไรร่วงหนัก 50% หลังเจอภาษีรถยนต์-ชิ้นส่วน 25% แต่ยังปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปีงบ 2568 เพราะประเมินผลกระทบภาษีใหม่ลดลงกว่าที่คาด
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในญี่ปุ่น รายงานกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2568 (เม.ย. - มิ.ย.) ปรับตัวลดลงถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1.966 แสนล้านเยน (ราว 4.3 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ 25% ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บังคับใช้ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
ด้านยอดขายสุทธิไตรมาสแรกของปีงบ 2568 อยู่ที่ 5.3 ล้านล้านเยน ลดลง 1.2% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.44 แสนล้านเยน ลดลง 49.6% จากปีก่อน
ฮอนด้าระบุว่า ผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.246 แสนล้านเยน (ราว 2.73 หมื่นล้านบาท) และคาดว่าผลกระทบเชิงลบจากภาษีศุลกากรตลอดทั้งปีงบ 2568 (สิ้นสุด มี.ค. 2569) จะอยู่ที่ราว 4.5 แสนล้านเยน (เกือบ 9.9 หมื่นล้านบาท )
อย่างไรก็ดี ค่ายรถญี่ปุ่นรายนี้ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี "หลังจากวิเคราะห์ผลกระทบของภาษีนำเข้าและประเมินสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศใหม่ภายใต้สถานการณ์ล่าสุด" เพราะคาดว่าผลกระทบจากภาษีสหรัฐจะลดลงเหลือ 4.5 แสนล้านเยน จากเดิมคาดไว้ถึง 6.5 แสนล้านเยน
ดังนั้น ฮอนด้าจึงปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานของปีงบ '68 อยู่ที่ 7 แสนล้านเยน จากคาดการณ์เดิมที่ 5 แสนล้านเยน ส่วนรายรับคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 20.3 ล้านล้านเยน เป็น 21.1 ล้านล้านเยน ส่วนกำไรสุทธินั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.5 แสนล้านเยนเป็น 4.2 แสนล้านเยน แม้ว่าจะน้อยกว่าปีก่อนหน้าถึง 50% ก็ตาม
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้วสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น ซึ่งจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นลงเหลือ 15% แต่ก็ยังไม่มีการประกาศวันที่อัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้อย่างแน่ชัด







