เปิด 4 รายชื่อ 'ประธานเฟด' คนต่อไปในใจ 'ทรัมป์' จ่อตั้งกรรมการเฟดสัปดาห์นี้

เปิด 4 รายชื่อ 'ประธานเฟด' คนต่อไป ในใจ 'ทรัมป์' อาจส่งคนของตัวเองนั่งเก้าอี้ ลั่นพร้อมตั้งกรรมการเฟดคนใหม่ภายในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" เผยว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟดคนใหม่ในตำแหน่งที่ว่างลงภายในสิ้นสัปดาห์นี้ พร้อมกับได้คัดเลือกรายชื่อผู้ที่จะมาแทนที่ "เจอโรม พาวเวลล์" ประธานเฟด คนปัจจุบันไว้แล้ว 4 คน
การประกาศของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่ "เอเดรียนา คูเกลอร์ " ผู้ว่าการคณะกรรมการเฟด ได้ยื่นหนังสือลาออกอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อกลับไปทำงานด้านวิชาการที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์
4 รายชื่อ 'ประธานเฟด' คนต่อไป
สำหรับรายชื่อผู้ที่จะมาแทนที่พาวเวลล์นั้น ทรัมป์ระบุว่าเหลืออยู่ 4 คน ได้แก่
1 เควิน แฮสเซ็ตต์ (Kevin Hassett) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และที่ปรึกษาคนสำคัญของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเคยเป็นประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ (Council of Economic Advisers) และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ (National Economic Council)
2 เควิน วอร์ช (Kevin Warsh) อดีตผู้ว่าการเฟด ในช่วงปี 2006-2011 และเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวของประธานาธิบดี George W. Bush
3. คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ว่าการ Fed ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยทรัมป์ในปี 2563 และเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทฤษฎีการเงิน
4. สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ Squawk Box ทางช่อง CNBC โดยได้กล่าวชื่นชม Kevin Hassett และ Kevin Warsh ในฐานะผู้สมัครที่มีศักยภาพ แต่ก็ได้เปิดเผยว่า Scott Bessent รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบันได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันตำแหน่งประธานเฟดแล้ว
ทรัมป์กล่าวถึงเควิน วอร์ช ว่า "เขาเก่งมาก บางครั้งคนเราก็ดูเก่งไปหมด จนกว่าจะได้เข้ามาทำงานจริงแล้วทำได้ไม่ดีนัก แต่...ผมคิดว่าเขาเป็นคนดีมาก ผมขอเลือกเควิน และเควิน (หมายถึง เควิน วอร์ช และ เควิน แฮสเซ็ตต์) ทั้งคู่เก่งมาก"
นอกจากนี้ ทั้งเควิน วอร์ช และ เควิน แฮสเซ็ตต์ เคยออกมาสนับสนุนให้ "ลดดอกเบี้ย" ซึ่งตรงกันข้ามกับนโยบายของพาวเวลล์
เปิดทางทรัมป์ส่ง 'คนของตัวเอง' นั่งเก้าอี้ประธานเฟด
ผู้ที่จะมาแทนที่คูเกลอร์จะต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาเพื่อเข้ารับตำแหน่ง และในต้นปีหน้าจะต้องได้รับการรับรองจากวุฒิสภาอีกครั้งเพื่อดำรงตำแหน่งครบวาระ 14 ปี ขณะที่การเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่นั้นจะต้องผ่านกระบวนการอนุมัติจากวุฒิสภา
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวตะวันตกจำนวนมากทั้งรอยเตอร์ส บลูมเบิร์ก และเดอะนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า การลาออกครั้งนี้เปิดประตูให้ทรัมป์ส่ง “คนของตัวเอง” เข้าไปนั่งในตำแหน่งดังกล่าวเพื่อปรับทิศทางนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับความต้องการของเขามากขึ้น
นอกจากนี้ ในหนังสือแถลงการณ์ลาออกของเธอไม่ได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการลงจากตำแหน่ง และเฟดก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าว แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งเดียวที่ทราบคือการลาออกของเธอมีขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กดดันเจอโรม พาวล์เวล ประธานเฟดอย่างหนักผ่านหน้าสื่อให้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุนในภาคการผลิต
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาทำงานในฐานะคณะกรรมการเฟดตั้งแต่เดือนก.ย. ปี 2556 และรู้สึกเป็นเกียรติ เช่นกันที่ได้เข้ามาทำงานในช่วงเวลาที่ท้าทายที่ต้องทำทั้งลดอัตราเงินเฟ้อและทำให้ตลาดการจ้างงานเข้มแข็ง” คูกเลอร์ กล่าวในแถลงการณ์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







