Tesla ทุ่ม 4.3 พันล้านดอลลาร์ ดึง LGES จัดหาแบตเตอรี่ หวังลดพึ่งพาจีน

Tesla ทุ่ม 4.3 พันล้านดอลลาร์ ดึง LGES จัดหาแบตเตอรี่ หวังลดพึ่งพาจีน

Tesla เซ็นสัญญามูลค่า 4.3 พันล้าน ร่วมกับ LGES จัดหาแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต หวังลดพึ่งพาจีน หลังภาษีทรัมป์ดันต้นทุนพุ่ง

รอยเตอร์รายงานว่า LG Energy Solution (LGES) หนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุดของโลกสัญชาติเกาหลีใต้ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานให้กับ “เทสลา” (Tesla) การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ Tesla ซึ่งเป็นบริษัทของสหรัฐ กำลังหาทางลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี

แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากข้อมูลยังไม่เป็นสาธารณะ ได้ระบุว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ที่จะจัดหาให้นั้น จะมาจากโรงงานของ LGES ในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา

วันนี้  LGES ได้เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามในสัญญามูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาแบตเตอรี่ชนิด LFP  ทั่วโลกเป็นระยะเวลา 3 ปี แต่ไม่ได้ระบุชื่อลูกค้า และมีการประกาศจากบริษัทว่ามีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Tesla และ General Motors แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าแบตเตอรี่ LFP เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)

LGES ได้แจ้งกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "ตามข้อตกลงของเรา เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของลูกค้าได้ เนื่องจากมีข้อผูกพันด้านการรักษาความลับ" ขณะที่ทาง Tesla เองก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที

ปัจจุบัน Tesla นำเข้าแบตเตอรี่ LFP จากจีน แต่ Cho Hyun-ryul นักวิเคราะห์อาวุโสของ Samsung Securities กล่าวว่า "ภาษีที่สูงขึ้นทำให้บริษัทต่างๆ ในสหรัฐ ประสบปัญหาในการนำเข้าแบตเตอรี่ LFP จากจีนเพิ่มมากขึ้น"

รวมทั้งก่อนหน้านี้  Vaibhav Taneja ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Tesla เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า บริษัทกำลังมองหาซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ที่ไม่ใช่จากจีนสำหรับธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน เนื่องจากเรื่องภาษี แต่ก็ยอมรับว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร

ข้อตกลง LFP เกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังจากที่ Samsung Electronics ของเกาหลีใต้ และ Tesla เพิ่งประกาศข้อตกลงการจัดหาชิปมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้

การผลิตของสหรัฐอเมริกา

LGES ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ LFP เพียงไม่กี่รายในสหรัฐ  แบตเตอรี่ชนิดนี้ถูกครอบงำโดยคู่แข่งจากจีนมาอย่างยาวนาน และยังไม่ค่อยมีบทบาทมากนักในตลาดสหรัฐ

LGES เริ่มเดินสายการผลิตแบตเตอรี่ LFP ที่โรงงานในรัฐมิชิแกนเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทกล่าวว่ากำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนสายการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบางส่วนในสหรัฐ เพื่อรองรับการผลิตสำหรับระบบกักเก็บพลังงานแทน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ชะลอตัวลง

LGES เปิดเผยว่าสัญญานี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ส.ค. 2570 ไปจนถึง ก.ค. 2573 นอกจากนี้ สัญญายังมีข้อตกลงที่ให้สามารถขยายระยะเวลาออกไปได้อีกสูงสุด 7 ปี และเพิ่มปริมาณการจัดส่งแบตเตอรี่ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับการเจรจากับลูกค้าต่อไป

นอกจากนี้ LGES ยังได้ออกมาเตือนว่า ความต้องการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจจะลดลงอีกในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการภาษีของสหรัฐและความไม่แน่นอนทางด้านนโยบาย แม้ว่าบริษัทจะยังคงมีรายงานผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในทุกไตรมาสก็ตาม