จับตา ‘สหรัฐ-จีน’ เจรจาภาษีในสวีเดนวันนี้ ลุ้นขยายเวลาสงบศึกเพิ่ม 90 วัน

จับตา "สหรัฐ-จีน" เจรจาภาษีในสวีเดนวันนี้ (28 ก.ค.) ลุ้นขยายเวลาสงบศึกเพิ่ม 90 วัน คาดอาจผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกสินค้าบางชนิดเพิ่ม
เจ้าหน้าที่เศรษฐกิจระดับสูงของสหรัฐ-จีนเตรียมกลับมาหารือกันอีกครั้งในกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนในวันนี้ (28 ก.ค.) เพื่อพยายามรับมือกับข้อพิพาททางเศรษฐกิจที่มีมายาวนานท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายเวลาสงบศึกไปอีก 3 เดือน และควบคุมภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
รอยเตอร์สรายงานว่า จีนกำลังเผชิญกำหนดเส้นตายวันที่ 12 ส.ค. นี้ เพื่อบรรลุข้อตกลงภาษีศุลกากรกับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากปักกิ่งและวอชิงตันบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในเดือน พ.ค. และเดือน มิ.ย. เพื่อยุติอัตราภาษีตอบโต้ที่ทวีความรุนแรงหลายสัปดาห์ และการระงับส่งออกแร่หายาก
หากทั้งสองฝ่ายไม่ทำข้อตกลง ห่วงโซ่อุปทานโลกอาจเผชิญกับความปั่นป่วนอีกครั้งจากระดับภาษีของสหรัฐต่อจีนที่พุ่งกลับไปสู่ตัวเลขสามหลัก ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับการคว่ำบาตรการค้าทวิภาคี
ทั้งนี้ การหารือในสตอกโฮล์ม มีขึ้นขณะที่ทรัมป์เพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่ที่สุดกับสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) โดยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอียูส่วนใหญ่ในอัตรา 15% รวมถึงรถยนต์ และอียูจะซื้อพลังงานจากสหรัฐเป็นมูลค่า 750,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมลงทุนในสหรัฐ 600,000 ล้านดอลลาร์ในอีกสองสามปีข้างหน้า
สำหรับการเจรจากับจีนในสวีเดน คาดว่าอาจไม่มีความคืบหน้าเหมือนกับอียู แต่นักวิเคราะห์การค้าบอกว่า จีนและสหรัฐอาจขยายเวลาเส้นตายภาษีไปอีก 90 วัน และอาจสงบศึกการควบคุมการส่งออกที่ตกลงกันไว้ในเดือน พ.ค.
การขยายเวลาสงบศึกออกไปอาจช่วยป้องกันไม่ให้สงครามการค้าทวีความรุนแรง และอำนวยความสะดวกต่อแผนการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่อาจมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ต.ค. หรือ ต้นเดือนพ.ย. ที่จะถึงนี้
สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐปฏิเสธแสดงความเห็นต่อรายงานของสำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ที่อ้างอิงแหล่งข่าว ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายจะละเว้นการกำหนดภาษีใหม่ หรือมาตรการอื่นๆ ที่อาจทำให้สงครามการค้ายืดเยื้อไปอีก 90 วัน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของทรัมป์เล็งที่จะกำหนดอัตราภาษีใหม่ต่อสินค้าบางประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ รวมถึงพวกเซมิคอนดักเตอร์, ยา, เครนขนส่งจากเรือขึ้นฝั่ง และสินค้าอื่นๆ
ด้านสกอตต์ เคนเนดี ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีน จากศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศในวอชิงตัน มองว่า ข้อตกลงของสหรัฐและจีนที่บรรลุในเจนีวาและลอนดอน เป็นแค่ความพยายามฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาเหมือนเดิม เพื่อให้พวกเขาสามารถเจรจาประเด็นต่างๆ ที่ได้สร้างความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ และว่าการขยายเวลาสงบศึกออกไปอีก 90 วัน อาจเป็นไปได้ที่จะบรรลุในการเจรจาครั้งนี้มากที่สุด
นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนมีความซับซ้อนมากกว่าการเจรจากับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย และจะต้องใช้เวลานานกว่า และการที่จีนครองตลาดแร่หายากและแม่เหล็กโลก ซึ่งเป็นแร่ที่ใช้ในทุกๆ อย่าง ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ทางทหารไปจนถึงมอเตอร์ปัดน้ำฝนรถยนต์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมของสหรัฐ
สำหรับคาดการณ์การพบปะกันของผู้นำสหรัฐและจีน ซัน เฉิงห่าว นักวิชาการจากศูนย์ยุทธศาสตร์และความมั่นคงแห่งชาติ มหาวิทยาลัยชิงหวาในปักกิ่ง บอกว่า การประชุมของทรัมป์และสี อาจเป็นโอกาสให้สหรัฐลดภาษีสินค้าจีนที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลลง 20% และฝ่ายจีนอาจทำตามคำมั่นสัญญาในปี 2563 ที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรและสินค้าอื่นๆ จากสหรัฐเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนยังคงมองว่า มีความเป็นไปได้ที่จีนอาจขอให้สหรัฐลดภาษีนำเข้าของสหรัฐที่ซับซ้อนหลายชั้นลง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 55% ของสินค้าส่วนใหญ่ และลดการควบคุมการส่งออกไฮเทคโนโลยีเพิ่มเติม
อ้างอิง: Reuters







