'ฟิลิปปินส์' จ่อ (รี)ดีล ขอลดภาษีนำเข้าสหรัฐอีกรอบ จาก 19% เหลือ 15%

"ฟิลิปปินส์" ต้องการเจรจาต่อรองกับสหรัฐเพื่อลดภาษีนำเข้าอีกครั้ง ด้าน "ทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐ" ชี้ เป้าหมายคือการลดอัตราภาษีจาก 19% ที่เพิ่งตกลงกัน ให้เหลือ 15%
KEY
POINTS
- ฟิลิปปินส์ต้องการเจรจาต่อรองกับสหรัฐเพื่อลดภาษีนำเข้าอีกครั้ง
- เป้าหมายคือการลดอัตราภาษีจาก 19% ที่เพิ่งตกลงกัน ให้เหลือ 15%
- ฟิลิปปินส์อ้างอิงอัตรา 15% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศไว้
- อัตราภาษี 19% ในปัจจุบันเท่ากับของอินโดนีเซีย แต่สูงกว่าของสิงคโปร์
สำนักข่าวซีเอ็นเอของสิงคโปร์รายงานวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ต้องเจรจาการค้ากับสหรัฐใหม่อีกรอบเพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าให้เหลือ 15% จากอัตราเดิมที่เพิ่งเจรจาเสร็จที่ 19%
นายโฆเซ มานูเอล โรมัลเดซ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐอเมริกา เปิดเผยในวันศุกร์ ว่า "แน่นอนเรายังสามารถเจรจาต่อรองอีกครั้งได้ หัวหน้าทีมการค้าของเราอาจจะกลับไปวอชิงตัน ดี.ซี. อีกครั้งเพื่อดูว่าเราจะลดภาษีลงได้อีกอย่างไร"
"ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแล้วว่าอัตราต่ำสุดที่เป็นไปได้คือ 15% ดังนั้นเรายังหวังว่าจะสามารถลดระดับภาษีลงมาอยู่ในระดับนั้นได้"
ทรัมป์ปรับเป้าภาษีใหม่ 15-50%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สหรัฐจะกำหนดอัตราภาษีต่อคู่ค้าในระดับ 15-50% ซึ่งสูงกว่าอัตราพื้นฐาน 10% ที่เขาเคยกำหนดไว้ในเดือนเม.ย.
การปรับอัตราดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับหลายประเทศโดยเฉพาะในเอเชีย โดยมีกำหนดเส้นตายสำหรับการเจรจาในวันที่ 1 ส.ค. ที่ใกล้เข้ามา
เปรียบเทียบอัตราภาษีในอาเซียน
อัตราภาษี 19% ที่ฟิลิปปินส์ได้รับอยู่ต่ำกว่าระดับ 20% ที่ทรัมป์เคยขู่ว่าจะเก็บเมื่อต้นเดือนนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ฟิลิปปินส์ได้อัตราเท่ากับอินโดนีเซียที่ 19% แต่ต่ำกว่าเวียดนามที่ได้อัตรา 20% ขณะที่สิงคโปร์ได้อัตราต่ำสุดในภูมิภาคที่ 10% เพราะไม่ได้เกินดุลการค้ากับสหรัฐ
บทวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ เผยว่า ข้อตกลงการค้าฉบับล่าสุดระหว่างสหรัฐ-ฟิลิปปินส์ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากการพบปะกันที่ทำเนียบขาวระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ "บองบอง" แห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ได้พบทรัมป์ในวาระที่สองของเขา
สร้างมาตรฐานใหม่ ขอดีลอีกรอบ !
การเจรจาครั้งใหม่นี้จะเป็นการทดสอบความสามารถของฟิลิปปินส์ในการต่อรองเพื่อให้ได้เงื่อนไขการค้าที่ดีกว่าเดิม ท่ามกลางนโยบายการค้าที่เข้มงวดของรัฐบาลทรัมป์ และหากฟิลิปปินส์สามารถทำได้สำเร็จก็จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้นานาประเทศสามารถกลับไปดีลกับทรัมป์ได้อีกรอบ







