‘มาริษ’ แจงได้พบผู้แทนระดับสูงนานาชาติ แจ้งประชาคมโลก กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย

‘มาริษ’ แจงได้พบผู้แทนระดับสูงนานาชาติ แจ้งประชาคมโลก กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย

มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดประชุมหารือสถานการณ์ไทย - กัมพูชา เผยได้พบผู้แทนระดับสูงหลายฝ่าย และแจ้งประชาคมโลก กัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดประชุมหารือ สถานการณ์ไทย - กัมพูชา ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ กระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้

- ขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุมหารือสถานการณ์ไทย - กัมพูชา ในวันนี้ ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงกระทรวงคมนาคม ผู้แทนสายการบิน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

- ผมได้ติดตามและสั่งการในการรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แม้ขณะนี้ อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development: HLPF) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก

- ในห้วงการเข้าร่วมการประชุมฯ ผมได้มีโอกาสพบผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง

(1) เลขาธิการสหประชาชาติ

(2) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) ประจำเดือนกรกฎาคม

(3) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประเทศปานามา ซึ่งจะเป็นประธาน UNSC ในเดือนสิงหาคม โดยทั้งฝ่ายปากีสถานและฝ่ายปานามาก็เห็นพ้องในการแก้ปัญหาของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคี และหากมีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ก็จะต้องมีการแก้ไข และ

(4) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาในเดือนธันวาคม 2568

- ผมได้ยืนยันให้ประชาคมโลกทราบถึงจุดยืนและความอดทนอดกลั้นของประเทศไทยต่อการดำเนินการต่าง ๆ ของกัมพูชาที่ไม่จริงใจ โดยไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาอย่างสันติในกรอบทวิภาคี การเคารพต่ออธิปไตย และหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงไทยได้เปิดประตูเพื่อการเจรจาทวิภาคีด้วยความจริงใจมาโดยตลอด ซึ่งแตกต่างจากท่าทีของกัมพูชาที่ตั้งใจยั่วยุและแทรกแซงกิจการภายในของไทย

- การกระทำของกองทัพกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย โดยเฉพาะการโจมตีอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ฝั่งไทยตลอดเช้าวันนี้ รวมถึงเป้าหมายพื้นที่ที่เป็นพลเรือน โดยเฉพาะโรงพยาบาลจนเป็นเหตุให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมพิจารณายกระดับมาตรการป้องกันตนเอง หากกัมพูชายังคงไม่ยุติการกระทำที่เป็นการโจมตีทางอาวุธและละเมิดอธิปไตยของไทยตามหลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ

- ล่าสุดในวันนี้ ผมได้สั่งการกระทรวงการต่างประเทศจัดเตรียมแผนการอพยพคนไทยออกจากกัมพูชาแล้ว และจากการประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสายการบินพาณิชย์ในวันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้มีการเพิ่มจำนวนที่นั่งในเที่ยวบินระหว่างกรุงพนมเปญและกรุงเทพ เพื่อรองรับคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน

-ผมขอส่งความห่วงใยถึงพี่น้องชาวไทยทุกท่านที่พำนักอยู่ในกัมพูชา และขอความร่วมมือทุกท่านติดตามข่าวสารพัฒนาการที่เกี่ยวข้องจาก

(1) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทรศัพท์ฉุกเฉิน: (+855) 77 888 114

(2) สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทรศัพท์: (+855) 86 608 999 และ

(3) Call Center กรมการกงสุล โทรศัพท์: (+66) 2 572 8442 ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง