'ฟิลิปปินส์' เรียกร้องไทย-กัมพูชา แก้ไขปัญหาอย่างสันติ ยืนยันจุดยืนเป็นกลาง

'ฟิลิปปินส์' เรียกร้องไทย-กัมพูชา แก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดนอย่างสันติ ยืนยันจุดยืนเป็นกลาง ด้านสถานทูตเตือนพลเมืองเลี่ยงเดินทางไปชายแดนไทย-กัมพูชา
รัฐบาลฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้มีความยับยั้งชั่งใจและการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่าง ไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธีและเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศและการคุ้มครองพลเรือน ท่ามกลางความกังวลในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น
ในแถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ (DFA) ฟิลิปปินส์เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นสมาชิกอาเซียนร่วมเจรจาและยึดมั่นในพันธสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี ตามที่ระบุไว้ในหลักการพื้นฐานและบรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศของอาเซียน
“เราหวังว่าประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งสองประเทศจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและการยุติข้อพิพาทโดยสันติ” แถลงของDFA ระบุและเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายพิจารณาและตระหนักถึงพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่
แถลงระบุด้วยว่า ฟิลิปปินส์ยังได้ยืนยันจุดยืนที่เป็นกลางในข้อพิพาทนี้ แต่ยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้แทนในกรุงเทพฯ และพนมเปญ พร้อมย้ำถึงความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านกงสุล หากพลเมืองฟิลิปปินส์ในสองประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าชาวฟิลิปปินส์เสียชีวิตหรือต้องพลัดถิ่นในเหตุการณ์นี้
ด้านสถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์แถลงการณ์เตือนประชาชนเลี่ยงการเดินทางไปยัง ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุดังนี้
“เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบอย่างรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยขอแนะนำอย่างเร่งด่วนให้ชาวฟิลิปปินส์ในจังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ปฏิบัติตามคำแนะนำรวมทั้งคำสั่งอพยพจากเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ชุมชน นายจ้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ชาวฟิลิปปินส์ในต่างแดน (OFs) ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ชายแดน ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุด เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล และรายงานตำแหน่งที่อยู่ของตนต่อสถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์
สถานเอกอัครราชทูตยังขอแนะนำให้ชาวฟิลิปปินส์ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการเพื่อรับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดด้านความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจังหวัดที่กล่าวถึงข้างต้น อันเนื่องจากสถานการณ์ที่ยังไม่สงบ
สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวฟิลิปปินส์ทุกคน และจะติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป”






