คำต่อคำ! กต.แจงกระบวนการไทยฟ้องโลก ดำเนินการเหมาะสมปกป้องอธิปไตย

คำต่อคำ! กต.แจงกระบวนการไทยฟ้องโลก ดำเนินการเหมาะสมปกป้องอธิปไตย

กระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ล่าสุด หลังลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และเกิดเหตุปะทะชายแดนเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี

เมื่อราว 12.20 น.วันนี้ (24 ก.ค.68) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าว สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ณ กระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงจุดยืนการยึดมั่นหลักการสันติภาพของไทย และการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดว่า หลักการดังกล่าวจะถูกนำไปพิจารณาในการประชุม สมช. เวลา 14.00 น. ส่วนการที่สังคมตั้งคำถามต่อท่าทีของไทยว่าทำไมต้องอดทน ดำเนินการตามกฎตามระเบียบขณะที่กัมพูชา ดูเหมือนจะทำอะไรก็ได้นั้น

“ประเทศไทยพูดมาโดยตลอดเรื่องการยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศ ธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎบัตรอาเซียน นั่นเป็นเหตุให้ไทยใช้ความอดทนอดกลั้นถึงจุดนี้ วันนี้เราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่เราป้องกันตนเอง ซึ่งได้ดำเนินการอย่างสมเหตุสมผลเพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติ และปกป้องคนไทย” นายนิกรเดช กล่าวและว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดในอาเซียนหรือประเทศอื่นๆ ขอมีบทบาทใดๆ หลังเกิดเหตุปะทะเมื่อช่วงเช้า 

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงขั้นตอนการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา โฆษกฯ ชี้แจงว่า ในการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตเราสามารถลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อลดไปถึงระดับสุดก็จะนำไปสู่การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต 

“วันนี้เราได้เริ่มมาตรการเรียกทูตไทยกลับประเทศ และขอให้ฝ่ายกัมพูชาเรียกทูตของเขากลับ อันเป็นมาตรการลดระดับทางการทูต แต่ก็ยังเปิดช่องให้ข้าราชการที่เป็นนักการทูตมีช่องทางหารือกันได้อยู่ รวมถึงการดูแลคนไทยในประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้” 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตไม่ง่าย เพราะเท่ากับว่าช่องทางในการติดต่อหรือ de-escalate ปิดประตูสำหรับลดแรงกดดันต่อทั้งสองฝ่าย การเจรจาหาจุดร่วมหาความสงบเป็นไปได้ยากขึ้น “เราจึงยังไม่ไปที่จุดนั้น” 

โฆษกกล่าวด้วยว่า เดิมทีชาวไทยในกัมพูชามีอยู่ราว 1,000 คน ขณะนี้เดินทางกลับประเทศบ้างแล้ว เหลืออยู่ในหลักหลายร้อยคน

สำหรับเสียงเรียกร้องให้ไทยฟ้องต่อประชาคมโลกว่ากัมพูชาทำกับไทยก่อน นายนิกรเดช อธิบายว่า ไทยดำเนินการแสดงบทบาทในเวทีระหว่างประเทศแล้ว ขณะนี้ที่กำลังแถลงข่าว นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำลังอยู่ที่นิวยอร์ก เมื่อวานได้พบกับประธานคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งเปลี่ยนทุกเดือน รัฐมนตรีมาริษ ได้พบกับประธานเดือนนี้ (ปากีสถาน) และประธานเดือนหน้า (ปานามา) วันนี้ได้พบกับเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนประเทศสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น รัสเซีย และอื่นๆ 

“กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่เฉพาะที่นิวยอร์ก ได้ยื่นหนังสือไปที่ Ottawa Convention โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรของไทยประจำนครเจนีวา ทูตทุกท่านได้รับแนวทางทำหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์แห่งชาติของไทยในเวทีโลกพร้อมๆ กัน การดำเนินการไม่ได้มีแค่ที่เวทีสหประชาชาติ แต่พูดคุยกับประเทศที่เราสนิทสนมด้วยทั้งหมด”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์