ทรัมป์ผลักดันให้เก็บภาษีนำเข้าสหภาพยุโรปขั้นต่ำสูงสุด 20%

หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปขั้นต่ำ 15-20%

จากข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐ-สหภาพยุโรป ทรัมป์ได้ยกระดับข้อเรียกร้องของเขาหลังจากการเจรจาข้อตกลงกรอบการค้าที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์

หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวระบุว่า เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนถึงกำหนดเส้นตายของทรัมป์ในวันที่ 1 สิงหาคม การเจรจาระหว่างสองมหาอำนาจดูเหมือนจะหยุดชะงัก

สหภาพยุโรปหวังว่าจะมีข้อตกลงที่คล้ายคลึงกับของสหราชอาณาจักร ซึ่งสหรัฐยังคงเก็บภาษีอัตราพื้นฐาน 10% พร้อมยกเว้นภาษีให้กับบางอุตสาหกรรม

ทรัมป์มักจะกล่าวโทษว่าสหภาพยุโรปเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มูลค่า 198,000 ล้านยูโร (231,000 ล้านดอลลาร์)

ในส่วนของเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป ระบุว่าการค้ามีความสมดุลมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงภาคบริการและการลงทุน พวกเขายังให้คำมั่นที่จะเพิ่มการซื้อน้ำมันและก๊าซเพื่อลดช่องว่างทางการค้า

รายงานข่าวดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบวัน โดยซื้อขายลดลงกว่า 250 จุด ปิดตลาดดาวโจนส์ลดลงมากกว่า 100 จุด และ S&P 500 ปิดในแดนลบ หลังปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี