'อิสราเอล' แซกแทรงขัดแย้งซีเรีย ทิ้งระเบิดลงดามัสกัส อ้างปกป้องชาวดรูซ

'อิสราเอล' แซกแทรงขัดแย้งซีเรีย ทิ้งระเบิดลงดามัสกัส อ้างปกป้องชาวดรูซ

อิสราเอลโจมตีซีเรียครั้งใหญ่เมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) อ้างปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวดรูซ มุ่งเป้ากรุงดามัสกัส มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 34 ราย ทั้งยังโจมตีทางตอนใต้ของซีเรียที่เกิดความขัดแย้งมานาน 4 วัน 

KEY

POINTS

  • อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในกรุงดามัสกัส และเมืองสุไวดาเมืองทางตอนใต้ของซีเรีย โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวดรูซ
  • การโจมตีของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายและบาดเจ็บ 34 รายในกรุงดามัสกัส
  • อิสราเอลเข้าแทรกแซงหลังเกิดการปะทะกันระหว่างชาวดรูซและกองทัพซีเรียในเมืองสุไวดา ทางตอนใต้ของประเทศ
  • อิสราเอลเผยว่าการโจมตีมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชาวดรูซ และเรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียถอนทหารออกจากพื้นที่ขัดแย้ง
  • กระทรวงการต่างประเทศซีเรียออกมาประณามการโจมตีของอิสราเอลว่าเป็นการจุดชนวนความตึงเครียดและบ่อนทำลายความมั่นคง

สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า อิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในซีเรียเมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) โดยมีการโจมตี 2 พื้นที่ ได้แก่ เมืองหลวงดามัสกัส และพื้นที่ทางตอนใต้ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวดรูซ ชาวเบดูอิน และกองทัพซีเรีย

ทำไมอิสราเอลเข้าไปมีส่วนร่วม

ความขัดแย้งทางในซีเรียปะทุขึ้นในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในเมืองสุไวดา ทางตอนใต้ของซีเรีย มีสาเหตุมาจากรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ระบุว่าพ่อค้าของชนกลุ่มน้อยชาวดรูซถูกลักพาตัว จากนั้นจึงเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวดรูซ ที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ กับกองกำลังของชาวเบดูอิน ที่นับถือนิกายสุหนี่ ในเมืองสุไวดา

ต่อมารัฐบาลซีเรียก็ส่งกองทัพไประงับความขัดแย้งเมื่อวันอังคาร (15 ก.ค.) และเกิดการปะทะกันระหว่างชาวดรูซและกองทัพซีเรีย ทำให้อิสราเอลเข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้ โดยอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีในซีเรียเป็นไปเพื่อปกป้องชนกลุ่มน้อยชาวดรูซ

'อิสราเอล' แซกแทรงขัดแย้งซีเรีย ทิ้งระเบิดลงดามัสกัส อ้างปกป้องชาวดรูซ

การโจมตีของอิสราเอล

ในการโจมตีกรุงดามัสกัสนั้น อิสราเอลได้ทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีซีเรีย และศูนย์บัญชาการทหารใจกลางเมืองหลวง และเผยว่าการโจมตีในครั้งนี้เพื่อปกป้องชาวดรูซและขอให้รัฐบาลซีเรียถอนทหารออกจากเมืองสุไวดา

กระทรวงสาธารณสุขซีเรียรายงานว่า การโจมตีของอิสราเอลในดามัสกัสทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บ 34 ราย

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของซีเรียออกมากบอกว่า การโจมตีของอิสราเอลในดามัสกัสและสุไวดา เป็นการจุดชนวนความตึงเครียด ก่อให้เกิดความปั่นป่วน และบ่อนทำลายความมั่นคงในซีเรีย พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ ดำเนินการเร่งด่วน เพื่อต่อต้านการรุกรานของอิสราเอล

ขณะที่อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โพสต์ใน X ว่า กองทัพอิสราเอลจะปฏิบัติการอย่างเข้มข้นในสุไวดาเพื่อทำลายกองกำลังที่โจมตีชาวดรูซ จนกว่ากองทัพเหล่านั้นจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด

ต่อมามาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพุธโดยตั้งความหวังว่าความขัดแย้งในซีเรียจะคลี่คลายได้ ขณะที่สหภาพยุโรป สหประชาชาติ และมหาอำนาจในภูมิภาคเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีในซีเรีย

ความขัดแย้งคลี่คลาย?

ความตึงเครียดดูเหมือนว่าจะคลี่คลายลงไปบ้างแล้ว เมื่อฝ่ายรัฐบาลซีเรียและผู้นำชาวดรูซออกมายืนยันในวันพุธว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงยังไม่มีความแน่นอน เมื่อผู้นำชาวดรูซอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า ชีค ฮิกมัต อัล-ฮาจารี ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงใหม่นี้ และบอกว่าจะสู้รบต่อไป จนกว่าสุไวดาจะได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ ตามรายงานของฝ่ายรัฐบาลซีเรียระบุว่า กองทัพได้ยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมด และเริ่มถอนกำลังออกจากสุไวดาแล้ว พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการที่มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำชาวดรูซให้คอยกำกับดูแลการดำเนินการตามข้อตกลง

การที่อิสราเอลเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งเพื่อปกป้องชาวดรูซนั้นเพราะอิสราเอลมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวดรูซในทางประวัติศาสตร์ เสมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน และในอิสราเอลเองก็มีชาวดรูซอาศัยอยู่จำนวนมาก

ด้านไฮด์ ไฮด์ นักวิจัยที่ปรึกษาจาก Chatham House สถาบันคลังสมองในกรุงลอนดอน เผยกับอัลจาซีราว่า อิสราเอลมีความชัดเจน มาตั้งแต่การโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาไม่ต้องการให้กองทัพซีเรียประจำการใกล้ชายแดนตอนใต้ของซีเรีย เพื่อป้องกันกองกำลังที่ไม่มิตรก่อความวุ่นวาย และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอิสราเอล

อัมมาร์ คาฟ ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการศึกษาเชิงกลยุทธ์ออมราน ในดามัสกัส บอกว่า การโจมตีของอิสราเอลคือข้อความที่ชัดเจนที่ต้องการส่งถึงรัฐบาลซีเรียว่า อิสราเอลจะไม่นิ่งเฉย

ทั้งนี้ ตามรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย พบว่า ความขัดแย้งในซีเรียล่าสุดนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 ราย ณ เช้าวันพุธ รวมเด็ก 4 คน และผู้หญิง 8 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของซีเรีย เสียกำลังคนไป 165 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ความขัดแย้งในซีเรียครั้งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความมั่นคงในซีเรียยังคงเปราะบางและอ่อนไหวง่าย แม้จะได้รับสัญญาณบวกจากสหรัฐจากการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร แต่ก็มีปัญหาภายในประเทศที่ยังคงต้องใช้เวลาในการสะสางอีกนาน