ยอดขาย 'รถอีวี' ทั่วโลกพุ่ง 24% ตลาดจีน - ยุโรป ยังเติบโตแรง

ยอดขาย 'รถอีวี' ทั่วโลกพุ่ง 24% ตลาดจีน - ยุโรป ยังเติบโตแรง

'จีน-ยุโรป' ตัวนำยอดขายรถยนต์ EV - PHEV ทั่วโลกพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย. พยุงตลาดโลกแม้ฝั่งอเมริกาเหนือจะหดตัวลง นักวิเคราะห์คาด 'แรงหนุนอีวีในจีน' ยังไม่หมดง่ายๆ เชื่อครึ่งปีหลังยังโตได้อีก

บริษัทวิจัยตลาด Rho Motion เปิดเผย ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกในเดือนมิ.ย.68 พบว่า ยอดขายทั่วโลกพุ่งขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้รับความนิยมในตลาด "จีนและยุโรป" แม้ว่าทิศทางในตลาดสหรัฐจะชะลอตัวลงก็ตาม

ยอดขายรถ EV และ PHEV ทั้งหมดในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านคัน ในจำนวนนี้เป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 28% ใน "จีน" ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ 1.11 ล้านคัน ตามมาด้วยการเพิ่มขึ้น 23% ในตลาด "ยุโรป" อยู่ที่ 3.9 แสนคัน และตลาดอื่นๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้นรวม 43% เกิน 1.4 แสนคัน

อย่างไรก็ดี ตลาดภาคพื้นอเมริกาเหนือมียอดขายลดลง 9% อยู่ที่กว่า 1.4 แสนคัน โดยอเมริกาเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ชะลอตัวในแคนาดาด้วย มียอดขายตามหลัง "ภูมิภาคอื่นๆ ของโลก" เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงตลาดเกิดใหม่ในอาเซียน อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง

เฉพาะในประเทศสหรัฐมียอดขายอีวีลดลง 1% และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ยากในปีนี้ หลังจากที่ร่างกฎหมายลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดลดเครดิตภาษีรถยนต์อีวีเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาษีนำเข้า 25% ในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ส่งผลให้ค่ายรถยนต์หลายรายถอนตัวออกจากการคาดการณ์สำหรับปี 2568

ส่วนในยุโรป มาตรการจูงใจต่างๆ เปิดโอกาสให้กับผู้ซื้อปลีก และผู้ซื้อรถยนต์แบบฟลีทในตลาดสำคัญๆ เช่น เยอรมนี และสเปน ประกอบกับมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกให้เลือกมากขึ้น จึงคาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2568

อย่างไรก็ดี แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะเป็นรถยุโรป เช่น โฟล์คสวาเกน และเรโนลต์ แต่รถยนต์ไฟฟ้าจาก "แบรนด์จีน" เช่น บีวายดี (BYD) ก็กำลังเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดในยุโรปมากขึ้น และผลักดันการเติบโตในตลาดเกิดใหม่

"ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง" เนื่องจากบางเมืองอาจไม่มีเงินอุดหนุน...แต่โดยรวมแล้ว เราคาดว่าจะมีเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในเชิงปริมาณ (ยอดขาย) ในช่วงปลายปีนี้" ชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์