รู้จัก 'Sephora Kids' เมื่อ Gen Alpha รุกตลาดความงามไม่รอโต

รู้จัก 'Sephora Kids' เมื่อ Gen Alpha รุกตลาดความงามไม่รอโต

"เด็กประถม" กำลังเป็นทั้งลูกค้าและอินฟลูเอนเซอร์ความงามอย่างคาดไม่ถึง พาไปรู้จัก 'Sephora Kids' คลื่นลูกใหม่ที่กำลังพลิกโฉมวิธีคิดของทั้งอุตสาหกรรมความงาม

สิบปีก่อนถ้าใครบอกว่า "เด็กประถม" จะเดินเข้าร้าน Sephora แล้วอธิบายสรรพคุณสกินแคร์ได้คล่องเหมือนผู้เชี่ยวชาญ เราคงไม่มีวันเชื่อ แต่วันนี้ภาพนั้นได้กลายเป็นความจริง 

เด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบบางคนมีสกินแคร์รูทีนแบบจัดเต็ม ใช้คลีนเซอร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม และมาส์กหน้า พร้อมถ่ายคลิปรีวิวลง TikTok อย่างมั่นใจ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่พฤติกรรมที่น่ารักแบบเด็กเล่นขายของ แต่เป็น "คลื่นลูกใหม่ที่กำลังพลิกโฉมวิธีคิดของทั้งอุตสาหกรรมความงาม"

Gen Alpha ซึ่งหมายถึงเด็กที่เกิดระหว่างปี 2010 ถึง 2024 กำลังกลายเป็นผู้เล่นตัวจริงในตลาดสกินแคร์และความงาม พวกเขาไม่ใช่ลูกค้าที่ “จะเป็น” แต่กำลัง “เป็นอยู่” ด้วยความสนใจในเรื่องความสวยความงามที่มาเร็วกว่ารุ่นก่อนแบบเห็นได้ชัด 

งานวิจัยล่าสุดระบุว่า เด็กหญิง 21% และเด็กชาย 12% เริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ความงามตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 7 ขวบ ส่งผลให้ตลาดความงามเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีลูกวัย Tween ซึ่งขณะนี้กลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลสูงและขับเคลื่อนยอดขายของแบรนด์ต่าง ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในสหรัฐฯ

เด็ก ๆ เหล่านี้ใช้เงินไปกับผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองราว 21–100 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ที่น่าสนใจคือ หลายคนมีบัญชีสมาชิก Sephora หรือ Ulta เป็นของตัวเองแล้วด้วยซ้ำ

รู้จัก 'Sephora Kids' เมื่อ Gen Alpha รุกตลาดความงามไม่รอโต

เด็กยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่ผู้ชมวิดีโอรีวิวใน YouTube หรือ TikTok แต่กลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ที่รู้วิธีเล่าเรื่องความงามด้วยตัวเอง ตั้งแต่คลิป Before & After รีวิวสกินแคร์ ไปจนถึง “Get ready with me” ก่อนออกไปโรงเรียน หรือโชว์ Haul ของขวัญวันเกิดที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดัง 

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะโซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่แทบจะแยกไม่ออกจากโลกจริง เด็ก ๆ เข้าถึงข้อมูลเรื่องความงามได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหลายเท่า รู้จักแบรนด์ รู้จักส่วนผสม รู้ว่าอะไรฮิต แม้กลุ่มเพื่อนจะยังเป็นแรงจูงใจหลักในการตัดสินใจลองสินค้าใหม่ แต่โซเชียลมีเดียก็กลายเป็นแรงผลักสำคัญที่นำเด็ก ๆ ไปไกลเกินวัยเร็วกว่าที่ใครจะคาดคิด

แม้จะดูน่าทึ่งที่เด็ก ๆ หันมาสนใจสกินแคร์อย่างจริงจัง แต่กระแสนี้ก็ไม่ได้มาโดยไร้ข้อกังวล เพราะในขณะที่พวกเขาเริ่มใช้เซรั่มวิตามินซี มอยส์เจอร์ไรเซอร์ผสมไฮยาลูรอนิก หรือแม้กระทั่งเรตินอลเป็นประจำ แพทย์ผิวหนังจำนวนไม่น้อยก็เริ่มออกมาเตือนว่า ส่วนผสมเหล่านี้อาจยังไม่เหมาะกับผิวเด็ก ซึ่งยังอ่อนบางและไวต่อการระคายเคือง การนำผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่มาใช้กับเด็กเล็ก อาจส่งผลเสียมากกว่าดี ทั้งทำลายสมดุลผิว เกิดการแพ้ หรือสร้างพฤติกรรมการดูแลตัวเองที่ไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น 

รู้จัก 'Sephora Kids' เมื่อ Gen Alpha รุกตลาดความงามไม่รอโต

ด้านผู้ปกครองเองก็เริ่มรู้สึกอึดอัด ต้องหาข้อมูล อ่านฉลาก หรือพาลูกไปพบหมอผิวหนังเพื่อขอความเห็นก่อนจะซื้อสกินแคร์สักชิ้น ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยอยากเห็นแบรนด์มีบทบาทที่รับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ทำการตลาดให้ขายดี แต่ควรมีฉลากเตือนเมื่อมีส่วนผสมที่แรงเกินไปสำหรับผิวเด็ก มีข้อมูลชัดเจนว่าแต่ละผลิตภัณฑ์เหมาะกับวัยไหน และที่สำคัญที่สุด คืออยากให้แบรนด์พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเด็กและวัยรุ่นจริง ๆ ไม่ใช่แค่ย่อไซซ์ของผู้ใหญ่แล้วเพิ่มเพียงกลิ่นหอมหวาน

ความท้าทายของแบรนด์ในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การทำตลาดกับเด็ก แต่รวมถึงการสร้างความไว้วางใจในระยะยาวกับครอบครัวด้วย หลายแบรนด์เริ่มขยับตัวอย่างจริงจัง เช่น Bubble ที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ดูสดใส เข้าถึงง่าย และมีแพลตฟอร์มให้ความรู้ชื่อ Skin School สำหรับสอนเรื่องสกินแคร์แบบเข้าใจง่ายให้กับเด็กโดยเฉพาะ แบรนด์ Claire’s และ Sephora เองก็จัดกิจกรรมวันเกิดที่สอดแทรกการเรียนรู้เรื่องการดูแลผิวอย่างเหมาะสม 

รู้จัก 'Sephora Kids' เมื่อ Gen Alpha รุกตลาดความงามไม่รอโต

ขณะที่บางแบรนด์เลือกใช้แนวทางที่เน้นความสนุกและการแสดงออก เช่น Evereden ที่ออกผลิตภัณฑ์แนว Face Crayon ให้เด็ก ๆ วาดหน้าตัวเองเล่นได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์

แม้เทรนด์นี้จะเริ่มจากกลุ่มเด็กผู้หญิงเป็นหลัก แต่เด็กผู้ชายก็มีส่วนร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แบรนด์อย่าง JB Skrub และ Yawn เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Gender-Neutral ที่ไม่ติดกรอบเรื่องเพศและเหมาะกับทุกคน นั่นทำให้การตลาดความงามในอนาคตไม่ควรพูดแค่เรื่องความสวย แต่ต้องขยายไปถึงประเด็นอย่างความคิดสร้างสรรค์ สุขภาพจิต และการยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย 

แม้บางคนจะมองว่าเด็กยุคนี้โตไวเกินไป จนเริ่มเป็นห่วงว่าเด็กอาจจะหลงรูปลักษณ์ตัวเองหรือใส่ใจกับความสวยงามเกินวัย แต่ในอีกมุมหนึ่งนี่อาจเป็นโอกาสดีที่เราจะได้หล่อหลอมเจเนอเรชันใหม่ให้รู้จักดูแลตัวเองตั้งแต่เล็ก เรียนรู้ว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนเหมาะกับผิว เข้าใจหลักการพื้นฐานของการดูแลสุขภาพผิวอย่างถูกต้อง และที่สำคัญคือซึมซับแนวคิดว่าความงามไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แค่ได้เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดก็พอ