‘พาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น’เทคโนโลยีแก้ปัญหาสังคม Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan

ด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ญี่ปุ่นจึงได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โปมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเอ็กซ์โปเต็มรูปแบบและรูปแบบพิเศษ
งานเวิลด์เอ็กซ์โปปีนี้ที่ใช้ชื่อว่า Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจ เมื่อนครโอซากาได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งหนึ่ง จากที่เคยเป็นมาแล้วในทศวรรษ 1970 แม้นานาประเทศทั้ง 158 ประเทศที่มาร่วมงานต่างงัดของดีมาอวดกันเต็มที่ แต่ด้วยความเป็นเจ้าภาพพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นย่อมเป็นที่จับตามองซึ่งญี่ปุ่นก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวัง
Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan บนเกาะยูเมะชิมะ เมืองโอซากา ที่จัดขึ้นภายใต้ธีม “Designing a Future Society for Our Lives” (การออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตเรา) กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีเข้ากับศิลปะและวัฒนธรรม พาวิลเลียนญี่ปุ่นที่ใช้ธีมว่า “Between Lives” (ระหว่างชีวิต) สอดประสานไปกับธีมงาน มีการใช้เทคโนโลยีเอไอ หุ่นยนต์ การสื่อสารเสมือนจริง (XR) และงานศิลปะอินเตอร์แอคทีฟ นำเสนอการผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพโดยใช้ขยะอาหารจากสถานที่จัดงานเอ็กซ์โปและเทคโนโลยีรีไซเคิลคาร์บอนล้ำสมัยอื่นๆ ของญี่ปุ่น นำมาสร้างวงจรแบบวนซ้ำและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมปรับใช้พฤติกรรมที่ยั่งยืนเพื่อสังคมที่ยั่งยืน
ความโดดเด่นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้มาเยือนเป็นจุดแรกคือโครงสร้างพาวิลเลี่ยนที่นำแผ่นไม้จำนวนมากมาเรียงกันเป็นวงกลม สะท้อนถึงวัฏจักรแห่งชีวิต เมื่อมองผ่านแผ่นไม้ซึ่งเชื่อมโยงภายนอกและภายในเข้าด้วยกันผ่านนิทรรศการและสถาปัตยกรรม ทำให้เกิดความเข้าใจถึงสิ่งที่ “อยู่ระหว่าง” อันเป็นส่วนหนึ่งของธีมพาวิลเลียน
แผ่นไม้เหล่านี้ส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ลามิเนตแนวขวาง (ซีแอลที) ออกแบบมาเพื่อให้รื้อถอนได้ง่าย เสร็จงานแล้วก็รื้อไปใช้ทำอาคารหลังอื่นๆ ได้ทั่วประเทศ
ตัวพาวิลเลี่ยนประกอบด้วยสามส่วนคือส่วนโรงเรือน ฟาร์ม และโรงงาน โดยส่วนโรงเรือนแสดงให้เห็นถึงกระบวนการเปลี่ยนน้ำเสียโดยใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยย่อยสลายขยะจากงานเอ็กซ์โป จากนั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า และน้ำสะอาด ถือเป็นการเดินทางผ่านวัฏจักรแห่งการฟื้นคืนชีพ ไม่ผิดเลยกับข้อความที่ว่า “ชีวิตเริ่มต้นที่ขยะ”
จากโซนโรงเรือนไปสู่โซนฟาร์ม ผู้ชมต้องเดินผ่านสระน้ำวงกลมกว้างใหญ่ ณ ใจกลางพาวิลเลี่ยน น้ำนี้มาจากน้ำเสียภายในงานที่ผ่านการบำบัดแล้วสะอาดถึงขนาดดื่มได้
โซนฟาร์มแสดงถึงกระบวนการเปลี่ยนน้ำเป็นวัสดุ ด้วยการทำงานของสาหร่ายและจุลินทรีย์รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยของวัสดุไบโอพลาสติก ความโดดเด่นของโซนนี้คือการนำเสนอประโยชน์ของสาหร่ายชนิดต่างๆ ที่ยังไม่มีใครพูดถึง
ข้อดีของสาหร่ายคือให้พลังงานมากมาย เติบโตได้ทุกที่แม้ในที่ยากลำบาก แต่จะทำอย่างไรให้ผู้คนรู้จักเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ทั้ง 32 ชนิด ก็ต้องนำเสนอพวกมันผ่านคิตตี้สีเขียว 32 ตัว ที่ใครเห็นเข้าเป็นต้องกรี๊ด! กับความน่ารักของสาหร่ายคิตตี้
โซนสุดท้ายคือโซนโรงงานซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการนำวัสดุมาทำเป็นผลิตภัณฑ์และงานฝีมือดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่แฝงการหมุนเวียน การซ่อมแซม นำกลับมาใช้ใหม่อยู่ตลอดเวลา เช่น ถ้วยญี่ปุ่นทำจากไมโครพลาสติกสามารถย่อยสลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากสังเกตดูให้ดีผลิตภัณฑ์ของญี่ปุ่นมักประกอบด้วยส่วนประกอบชิ้นเล็กๆ หลักคิดคือ ถ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งพังไปก็ซ่อมเฉพาะชิ้นนั้น ไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด นี่คือแนวคิดเรื่องการหมุนเวียนที่ญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้แต่ตัวพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นก็แสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจากน้ำสู่ขยะ ขยะสู่น้ำ น้ำสู่วัสดุ วัสดุสู่ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์กลับไปเป็นขยะ
ในภาพรวมการเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นช่วยจุดประกายให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงแง่มุมที่กว้างขวาง เริ่มต้นจากการสอดประสานระหว่างเทคโนโลยีทันสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ไปกันได้ดี โดยไม่ลืมประเด็นปัญหาสังคมในปัจจุบัน ทั้งสังคมสูงวัย มาตรการรับมือภัยพิบัติ เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ
- เทคโนโลยีสอดประสานศิลปะ
ทาคุโบะ โนริฮิโกะ รักษาการผู้อำนวยการพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น บรรยายสรุปแก่คณะผู้สื่อข่าวอาเซียนที่มาเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนว่า บริษัท องค์กร และเอกชนกว่า 30 รายร่วมเป็นสปอนเซอร์และสนับสนุนการจัดนิทรรศการในพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น ที่สามารถชี้ให้ผู้ชมเห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้สร้างผลกระทบต่อสุขภาพ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วัฒนธรรม และโลกโดยรวม เช่น การเน้นย้ำถึงประโยชน์ทางโภชนาการของสาหร่ายและศักยภาพในการเป็นแหล่งดูดซับ CO2
“เราหวังว่านิทรรศการนี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามระดับโลกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแคลนอาหารในอนาคตและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้”
และแม้เทคโนโลยีก้าวล้ำแค่ไหน ญี่ปุ่นไม่เคยลืมศิลปวัฒนธรรมของตนเอง เห็นได้จากในพื้นที่โรงงานของพาวิลเลี่ยน งานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เน้นการลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดและการทำผลิตภัณฑ์ที่คงทนได้รับการนำเสนอควบคู่กับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่สืบสานคุณค่าเหล่านั้น
"พาวิลเลี่ยนญี่ปุ่นไม่เพียงแต่แสดงออกถึงแนวคิดเรื่องการหมุนเวียนผ่านการจัดนิทรรศการเท่านั้น แต่ยังแสดงออกผ่านสถาปัตยกรรมด้วย โครงสร้างแบบวงกลมแสดงถึงวงจรที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน ในระหว่างงานนิทรรศการครั้งนี้ เราหวังว่าผู้เยี่ยมชมจะมองเห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่ยิ่งใหญ่นี้ และได้รับแรงบันดาลใจในการดำเนินการเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น"
สำหรับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมป้องกันภัยพิบัติใหม่ๆ ที่ประเทศเสี่ยงต่อภัยพิบัติอย่างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถนำไปใช้ได้ ถูกนำเสนออยู่ในโซนโรงงานเช่นกัน อาทิ เทคโนโลยีระบบลดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ใช้ในตึกโตเกียวสกายทรี และเทคโนโลยีที่ใช้ในสะพาน Nagarebashi หรือสะพานเตี้ยๆ แบบไม่มีราวกั้น ช่วยลดความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อให้กระแสน้ำไหลผ่านได้แทนที่จะต้านทานแรงน้ำ
“เราเชื่อว่านวัตกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้จริงในประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พาวิลเลียนญี่ปุ่นมีธีม Between Lives ซึ่งส่งเสริมความยั่งยืน เพราะญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่สร้างสรรค์เทคโนโลยี”
- PASONA NATUREVERSE ชีวิตแห่งอนาคต
นอกเหนือจากพาวิลเลี่ยนญี่ปุ่น ยังมีพาวิลเลี่ยนของบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งนำนวัตกรรมล้ำยุคมาจัดแสดง สะท้อนให้เห็นความตระหนักถึงชีวิตในอนาคตว่าเราจะอยู่กันอย่างไร เช่น PASONA NATUREVERSE ของ PASONA บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ของญี่ปุ่น ที่จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ นำเทคโนโลยีก้าวหน้ามากมายมาร่วมงานเอ็กซ์โป เช่น หัวใจ iPS, การนอนแห่งอนาคต, ตัวฉันในอนาคต การแพทย์แห่งอนาคต โลกมหัศจรรย์ เป็นต้น
- หัวใจ iPS
หัวใจiPS เป็นหัวใจสามมิติดัดแปลงมาจากเซลส์ต้นกำเนิดโดยใช้ชีววัตถุและชีววิศวกรรม เต้นได้จริงๆ ถือเป็นความหวังทางการแพทย์และอนาคตของชีวิต
เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ (cardiomyocytes) ที่สร้างจากเซลล์ iPS ของมนุษย์ถูกแปรรูปเป็นแผ่นสามารถผ่าตัดปลูกถ่ายเข้าไปในหัวใจมนุษย์ได้ ดร.โยชิกิ ซาวะ ศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยโอซาก้าและผู้อำนวยการบริหาร PASONA NATUREVERSE ดำเนินการวิจัยและพัฒนาแผ่น iPS สำหรับกล้ามเนื้อหัวใจ ในปี 2020 ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายแผ่น iPS เข้าไปในหัวใจมนุษย์สำเร็จเป็นครั้งแรก
- การนอนแห่งอนาคต
นิทรรศการที่อธิบายกลไกการนอนหลับของมนุษย์ พร้อมเตียงที่ทำมาสำหรับสไตล์การนอนของแต่ละคน ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อกับการนอนมากที่สุด ผู้ชมงานสามารถทดลองนอนบนเตียงและสัมผัสประสบการณ์การจำลองประเมินการนอนหลับโดยใช้เซ็นเซอร์ได้
(ภาพจาก PASONA)
- ตัวฉันในอนาคต
เมื่อร่างกายต้องเสื่อมถอยลงเพราะอายุมากขึ้นหรือเจ็บป่วย แต่มนุษย์ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างอิสระและมีความสุขด้วยความช่วยเหลือของ HALหุ่นยนต์ไซบอร์กสวมใส่ได้ ช่วยให้การทำงานของร่างกายของมนุษย์ดีขึ้นและฟื้นฟูได้เพียงแค่สวมใส่
ที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง เทคโนโลยีใน PASONA NATUREVERSE สรุปรวบยอดด้วยการนั่งยานแห่งความหวังเดินทางสู่อนาคต นิทรรศการที่บอกเล่าผ่าน Immersive Theater ตอกย้ำว่าในภาพรวมประเทศญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชนต่างตระหนักถึงปัญหาสังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม และให้ความสำคัญกับชีวิตในอนาคตมากแค่ไหน
นวัตกรรมที่ปรากฏในงาน Expo 2025 Osaka, Kansai, Japan นั้นมากมายสาธยายไม่ถ้วน ไม่ต้องแปลกใจหากญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าด้านเทคโนโลยีการแพทย์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมอีกหนึ่งตำแหน่ง และนั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมวลมนุษยชาติ







