ราคาทองแดงพุ่งทุบสถิติใหม่หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 50%

ราคาทองแดงพุ่งทุบสถิติใหม่หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 50%

ราคาทองแดงในสหรัฐพุ่งทะยาน 17% ปรับขึ้นรอบวันสูงสุดทุบสถิติใหม่ หลังปธน. ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 50% ในการเก็บภาษีรายเซ็กเตอร์ล่าสุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาทองแดง ในตลาดนิวยอร์กพุ่งสูงขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศว่า เขาวางแผนที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้า 50% ซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้คาดว่าอาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในตลาดโลหะทั่วโลก

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดงในตลาด Comex พุ่งขึ้นมากถึง 17% ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดทำสถิติใหม่ในรอบวัน ก่อนที่จะร่วงลงกว่า 4% ในการซื้อขายช่วงเช้าของวันพุธ โดยราคาในตลาดนิวยอร์กนั้นมีค่าพรีเมียมสูงกว่า 24% เมื่อเทียบราคาฟิวเจอร์สเทียบเท่าในตลาดลอนดอน ซึ่งเป็นตลาดที่กำหนดราคาอ้างอิงของโลก

ราคาในตลาดนิวยอร์กซื้อขายที่ 5.5085 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเวลา 8.23 ​​น. ที่เซี่ยงไฮ้ในวันพุธ ขณะที่ราคาทองแดงในตลาด London Metal Exchange ลดลง 1.7% เหลือ 9,627 ดอลลาร์ต่อตัน

ราคาทองแดงพุ่งทุบสถิติใหม่หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 50%

ทั้งนี้ หากมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจริง คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐเองมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมและการใช้งานต่างๆ ต้องพึ่งพาทองแดง ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคและยานยนต์ ไปจนถึงการก่อสร้างบ้านและดาต้าเซ็นเตอร์

บลูมเบิร์กระบุว่าในระหว่างนี้ ตลาดมีแนวโน้มที่จะสะท้อนราคาอย่างบิดเบี้ยวเนื่องจากค่าพรีเมียมของสหรัฐที่สูงมาก ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาผู้ค้าได้ขนส่งทองแดงในปริมาณมหาศาลไปยังสหรัฐตุนไว้บ้างแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้น และราคาที่พุ่งสูงขึ้นของตลาด Comex จะยิ่งกระตุ้นให้มีการขนส่งทองแดงไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีการเรียกเก็บภาษี

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ ระบุในโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้ว่า เขายังคงวางแผนกำหนดภาษีกับอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมาย รวมถึงยารักษาโรค เซมิคอนดักเตอร์ และโลหะ

“ผมเชื่อว่า เราจะขึ้นภาษีนำเข้าทองแดง 50%” ทรัมป์กล่าวเมื่อนักข่าวถามว่าอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเหล่านั้นจะเป็นเท่าไร และเขาคาดว่าจะให้เวลาผู้ผลิตยาในการนำการย้ายการผลิตมาที่สหรัฐ ก่อนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 200%

คำสั่งของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่สหรัฐและประเทศอื่นๆ คาดว่าทั่วโลกจะมีความต้องการทองแดงเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงทศวรรษหน้า โดยดาต้าเซ็นเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทพลังงาน และอื่นๆ ต่างเสาะหาวัตถุดิบทั่วโลกเพื่อเพิ่มผลผลิตของยานยนต์ไฟฟ้าและความจุของโครงข่ายไฟฟ้า การปรับปรุงระบบไฟฟ้าและการขนส่งเพื่อให้ใช้พลังงานหมุนเวียนจะต้องใช้ทองแดงมากกว่าที่บริษัทที่ผลิตทองแดงให้คำมั่นว่าจะจัดหาให้ได้ในปัจจุบัน

ราคาทองแดงพุ่งทุบสถิติใหม่หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 50%

ก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมทองแดงทั่วโลกเตรียมรับมือกับการเรียกเก็บภาษีมาตั้งแต่เดือนก.พ. แล้ว เมื่อทรัมป์สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ไปศึกษาการเรียกเก็บภาษีทองแดงโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ภายใต้ มาตรา 232 ของพระราชบัญญัติการขยายการค้า ซึ่งแผนดังกล่าวได้รับการต่อต้านจากบรรดาผู้ผลิตซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก

ด้าน นายฮาวเวิร์ด ลัตนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับซีเอ็นบีซีไม่นานหลังการประชุมครม.ว่า การสอบสวนเรื่องทองแดงของกระทรวงได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และคาดว่าการจัดเก็บภาษีนี้ “น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายเดือนก.ค. หรืออาจเป็นวันที่ 1 ส.ค. นี้”