สื่อพรรคคอมมิวนิสต์ขู่! ใครทำดีลกับสหรัฐตัดจีนออกจากซัพพลายเชนโดนตอบโต้แน่

จีนเตือนรัฐบาลทรัมป์อย่าจุดไฟความตึงเครียดทางการค้าด้วยการเก็บภาษีในเดือนหน้า พร้อมขู่ตอบโต้ประเทศที่ทำดีลกับสหรัฐโดยตัดจีนออกจากซัพพลายเชน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ตามที่เมื่อวันจันทร์ (7 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มแจ้งคู่ค้าว่าต้องโดนสหรัฐขึ้นภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป หลังทรัมป์เก็บแค่ 10% มาตั้งแต่เดือน เม.ย. ระหว่างรอทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ
สำหรับจีนซึ่งเดิมทีต้องเสียภาษีในอัตรากว่า 100% มีเวลาถึงวันที่ 12 ส.ค. เพื่อบรรลุข้อตกลงกับทำเนียบขาว
ล่าสุดหนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเผยแพร่บททัศนวิจารณ์ “เสียงจากจีน” ที่หนังสือพิมพ์ใช้สำหรับแสดงความเห็นด้านนโยบายต่างประเทศ กล่าวถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ระบุ
“ข้อสรุปหนึ่งที่ชัดเจนอย่างยิ่งก็คือ การเจรจาและความร่วมมือเป็นเส้นทางที่ถูกต้องเพียงทางเดียว”
บทความตอกย้ำมุมมองของรัฐบาลปักกิ่งว่า ภาษีของทรัมป์เท่ากับ “การกลั่นแกล้งรังแก”
“ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การยืนหยัดในหลักการเป็นหนทางเดียวที่จะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของเราได้อย่างแท้จริง”
รอยเตอร์สรายงานว่า ความเห็นดังกล่าวอาจนำไปสู่ศึกภาษีอีกรอบ หากทรัมป์ยึดมั่นในสิ่งที่พีเพิลส์เดลีเรียกว่า “เส้นตายสุดท้าย”
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Peterson Institute for International Economics ปัจจุบัน สหรัฐคิดภาษีนำเข้าสินค้าจีนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 51.1% ในขณะที่จีนคิดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐอยู่ที่ 32.6% และทั้งสองประเทศต่างก็เก็บภาษีการค้าของกันและกัน
ไม่เพียงเท่านั้นบทความของพีเพิลส์เดลียังพาดพิงเขตเศรษฐกิจต่างๆ ในเอเชีย ที่กำลังพิจารณาทำข้อตกลงกับสหรัฐโดยตัดจีนออกจากซัพพลายเชนของตนเอง
สัปดาห์ก่อน เวียดนามได้ข้อตกลงถูกเก็บภาษีลดลงจาก 46% เหลือ 20% ส่วนสินค้า “ถ่ายลำ” ส่วนใหญ่มาจากจีน เจอภาษี 40%
“จีนต่อต้านแข็งขันหากฝ่ายใดทำข้อตกลงโดยสังเวยผลประโยชน์จีนแลกกับการได้ลดภาษี หากสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จีนจะไม่ยอมรับและจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของตน”







