อียู ‘ยังไม่โดนจดหมายขึ้นภาษี’ จากสหรัฐ จับตาเจรจาทรัมป์ อียูหวังได้ข้อยกเว้นภาษี 10%

อียู ‘ยังไม่โดนจดหมายขึ้นภาษี’ จากสหรัฐ จับตาเจรจาทรัมป์ อียูหวังได้ข้อยกเว้นภาษี 10%

สหภาพยุโรป ‘รอดจดหมายภาษี’ จากสหรัฐ จับตาดีลใหม่ใต้แรงกดดันจากทรัมป์ อียูหวังได้ข้อยกเว้นจากภาษีพื้นฐาน 10%

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) “ยังไม่ได้รับ” จดหมายจากสหรัฐที่แจ้งเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าแต่อย่างใด ตามที่แหล่งข่าวจากสหภาพยุโรปที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส พร้อมระบุว่า สหภาพยุโรปกำลังมองหาความเป็นไปได้ในการได้รับการยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีพื้นฐานของสหรัฐที่อัตรา 10%

ไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เริ่มแจ้งพันธมิตรทางการค้าหลายประเทศ ตั้งแต่ญี่ปุ่นถึงเมียนมา ผ่านจดหมายหลายฉบับเกี่ยวกับการขึ้นภาษีสินค้าที่ส่งออกมายังสหรัฐ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้

แหล่งข่าวบางรายจากสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศสมาชิก EU กำลังเข้าใกล้ข้อตกลงกับรัฐบาลทรัมป์

ข้อตกลงดังกล่าวอาจรวมถึงการยอมให้มีการเก็บภาษีพื้นฐานของสหรัฐในบางส่วนที่ “อัตรา 10%” สำหรับสินค้าประเภทอากาศยานและชิ้นส่วน เครื่องมือแพทย์บางรายการ และสุรา ตามที่แหล่งข่าว 3 รายซึ่งใกล้ชิดกับสถานการณ์นี้เปิดเผย

แหล่งข่าวอีก 2 รายยังระบุว่า สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาการจัดทำข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรป ซึ่งมีฐานการผลิตและส่งออกรถจากสหรัฐ สามารถนำเข้ารถยนต์จาก EU กลับเข้าสหรัฐได้ในอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 25% ซึ่งเป็นอัตราในปัจจุบัน

ข้อตกลงลักษณะนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทรถยนต์เยอรมันที่มีโรงงานขนาดใหญ่ในสหรัฐ
คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเคยตั้งเป้าหมายว่า จะเจรจาข้อตกลงทางการค้าที่สมดุลและครอบคลุมยิ่งขึ้นกับสหรัฐ ได้แจ้งต่อคณะทูตของสหภาพยุโรปเมื่อค่ำวันจันทร์ว่า ประเทศสมาชิกกำลังเผชิญกับทางเลือกระหว่าง “การยอมรับข้อตกลงที่ไม่สมดุล” หรือ “ยอมรับความไม่แน่นอน” ที่มากขึ้น

คณะกรรมาธิการยังระบุด้วยว่า ไม่มีหลักประกันใด ๆ ว่า รัฐบาลทรัมป์จะไม่ดำเนินการขึ้นภาษีเพิ่มเติม หรือไม่เรียกร้องข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมจากฝั่งยุโรป

ขณะนี้ สหภาพยุโรปกำลังเผชิญกับภาษีนำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 50% สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียม 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ และ 10% สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ประเภทอื่น ๆ 

นอกจากนี้ สหรัฐยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อผลิตภัณฑ์ยาและเซมิคอนดักเตอร์อีกด้วย

อ้างอิง: reuters