เม็กซิโก ‘เมิน BYD’ ไม่อนุมัติแผนลงทุนโรงงานอีวี ป้องกันกระทบสัมพันธ์การค้ากับสหรัฐ

เม็กซิโก ‘เมิน BYD’ ไม่อนุมัติแผนลงทุนโรงงานอีวี ป้องกันกระทบสัมพันธ์การค้ากับสหรัฐ

ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐ รัฐบาลเม็กซิโกตัดสินใจ ‘ปฏิเสธแผนการลงทุนของ BYD’ ค่ายอีวียักษ์ใหญ่จากจีน ท่าทีแข็งกร้าวของเม็กซิโก สะท้อนความระแวดระวังต่อบทบาทของจีนในภูมิภาค และเน้นย้ำความสำคัญของพันธมิตรการค้ากับสหรัฐ

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า “เม็กซิโก” ปฏิเสธแผนของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า “BYD” ในการสร้างโรงงานผลิตรถอีวีในประเทศ โดยมีรายงานว่า การเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐได้ทวีความซับซ้อนขึ้น จนส่งผลกระทบต่อความสามารถของเม็กซิโกในการทำธุรกิจกับจีน

ที่ผ่านมา BYD กำลังเร่งขยายตลาดในต่างประเทศ หลังจากยอดขายภายในประเทศเริ่มชะลอตัว เดิมทีคาดว่าบริษัทจะประกาศสถานที่ตั้งโรงงานในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ได้คัดเลือกเหลือเพียง 3 ตัวเลือกตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยพื้นที่ทางตอนเหนือของเม็กซิโก ใกล้ชายแดนสหรัฐ ถูกมองว่าเป็น “ตัวเลือกอันดับหนึ่ง”

สำหรับต้นทุนของโครงการนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับโรงงานแห่งใหม่ของ BYD ในบราซิล ซึ่งบริษัทลงทุนไปแล้ว 5.5 พันล้านเรียล หรือราว 32,000 ล้านบาท โดยเดิมที BYD วางแผนให้โรงงานในเม็กซิโกเป็นฐานการผลิตหลักแห่งหนึ่ง และจะมีการจ้างงานราว 10,000 คน

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 บริษัท BYD ได้จัดงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ครั้งแรกนอกประเทศจีนที่เม็กซิโกซิตี้ โดยเป็นการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็นถึงแผนการขยายตลาดในเม็กซิโก แต่รัฐบาลเม็กซิโกซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐได้ตัดสินใจ “ไม่ขายที่ดินของรัฐ” ให้กับ BYD เพื่อสร้างโรงงาน และไม่ได้เสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือเงินอุดหนุนใด ๆ สำหรับโครงการนี้

ระหว่างการหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอ้างว่า จีนกำลังสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในเม็กซิโก เพื่อนำมาขายในสหรัฐ 

เพื่อลดกระแสวิจารณ์นี้ BYD จึงยืนยันว่า โรงงานที่วางแผนจะสร้างในเม็กซิโกนั้น มีเป้าหมายเพื่อผลิตรถยนต์สำหรับตลาดละตินอเมริกา อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์กลับมาชนะเลือกตั้ง ก็ยังทำให้อนาคตของโครงการนี้มืดมนลงอยู่ดี

ทั้งนี้ การแสดงท่าทีต้อนรับบริษัทจีน อาจเสี่ยงต่อการทำให้จุดยืนของเม็กซิโกในการเจรจาภาษีกับรัฐบาลทรัมป์อ่อนแอลง รัฐบาลเม็กซิโกจึงได้เว้นระยะห่างจากธุรกิจจีน พร้อมย้ำว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐ–เม็กซิโก–แคนาดา (USMCA) คือ สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าที่มุ่งเป้าไปยังเม็กซิโกและแคนาดา ขณะเดียวกัน เม็กซิโกก็เริ่มมีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นต่อจีน โดยเก็บภาษีสินค้านำเข้าขนาดเล็ก และปราบปรามสินค้าที่เชื่อว่า เล็ดลอดเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

สำหรับเป้าหมายของบริษัท BYD คือ การเพิ่มยอดจำนวนรถให้เป็นสองเท่าในปีนี้ โดย BYD กำลังขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในเม็กซิโก และเมื่อไม่นานมานี้ เรือขนส่งรถยนต์ของบริษัทก็ได้เทียบท่าในเม็กซิโกเป็นครั้งแรก โดยขนถ่ายรถยนต์ทั้งหมด 5,000 คันที่ท่าเรือในรัฐซีนาโลอาและมิโชอากัน

ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา BYD ได้จัดพิธีเฉลิมฉลองในบราซิล เนื่องในโอกาสที่รถยนต์คันแรกได้ออกจากสายการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถปลั๊กอินไฮบริด โดยคาดว่าจะสร้างงานให้กับแรงงานท้องถิ่นราว 20,000 ตำแหน่ง

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กระทรวงแรงงานของบราซิลได้สั่งให้ BYD ระงับการก่อสร้างโรงงานชั่วคราว เนื่องจากพบสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ 

ต่อมาบริษัทระบุว่า จะยุติสัญญากับผู้รับเหมาชาวจีนที่รับผิดชอบโครงการ และได้กลับมาดำเนินการก่อสร้างต่อหลังจากแรงงานที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศจีน และมีการปรับปรุงสภาพการทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง

อ้างอิง: nikkei