ลุ้นระทึก! ทรัมป์อาจเริ่มแจ้งอัตราภาษีใหม่แก่คู่ค้าวันศุกร์

ลุ้นระทึก! ทรัมป์อาจเริ่มแจ้งอัตราภาษีใหม่แก่คู่ค้าวันศุกร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผย รัฐบาลสหรัฐอาจเริ่มส่งจดหมายถึงคู่ค้าเร็วที่สุดในวันศุกร์ (4 ก.ค.68) กำหนดอัตราภาษีใหม่ก่อนถึงเส้นตาย 9 ก.ค.68

“เราอาจจะส่งจดหมายจำนวนหนึ่ง เผลอๆ เริ่มพรุ่งนี้ อาจจะวันละ 10 ฉบับไปยังประเทศต่างๆ บอกว่า พวกเขาต้องจ่ายเท่าไรในการทำธุรกิจกับสหรัฐ”

ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.68) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะออกจากกรุงวอชิงตันไปงานที่รัฐไอโอวา

ทรัมป์ข่มขู่มานานแล้วว่า ถ้าประเทศใดไม่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐก่อนเส้นตายในสัปดาห์หน้า เขาจะกำหนดอัตราภาษีเอง นั่นทำให้คู่ค้าต้องเร่งทำข้อตกลงกับรัฐบาลวอชิงตันให้สำเร็จ

เดิมทีประธานาธิบดีสหรัฐประกาศขึ้นภาษีที่เรียกว่า “ภาษีศุลกากรตอบโต้” เมื่อวันที่ 2 เม.ย.68 แต่ต่อมาระงับไว้เป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางให้คู่ค้าเจรจา ระหว่างนั้นสหรัฐเก็บภาษีในอัตรา 10% แทน

ถึงขณะนี้รัฐบาลทรัมป์ทำข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร และเวียดนามไปแล้ว และสงบศึกกับจีนได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทำข้อตกลงเพิ่มอีกหรือไม่ ทรัมป์ตอบ

“เรามีข้อตกลงอื่นอีกสองสามฉบับ แต่คุณรู้มั้ย ผมคิดว่าจะส่งจดหมายไปแจ้งพวกเขาว่า พวกเขาต้องจ่ายเท่าไรมันง่ายกว่าเยอะ”

เมื่อวันพุธ (2 ก.ค.68) ทรัมป์ประกาศข้อตกลงกับเวียดนามว่า สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าส่งออกจากเวียดนามในอัตรา 20% และ 40% สำหรับสินค้าที่ส่งผ่านเวียดนาม วิธีการที่จีน และประเทศอื่นๆ ใช้บ่อยด้วยการส่งสินค้าไปประเทศที่ 3 ก่อนส่งมาสหรัฐ

แม้อัตราที่เวียดนามได้จะต่ำกว่าอัตราเดิม 46% มาก แต่ยังสูงกว่า 10% ที่ทรัมป์เก็บกับทุกประเทศ และรายละเอียดข้อตกลงยังไม่ชัดเจน ทำเนียบขาวยังไม่เปิดเผยเงื่อนไขหรือข้อตกลงโดยรวม

กระนั้นนักลงทุนก็มีความหวังกับดีลเวียดนาม ส่งผลราคาหุ้นบริษัทผู้ผลิตสหรัฐที่มีโรงงานในเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่คู่ค้าสำคัญอีกหลายราย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป (อียู) ยังคงรอสรุปดีล ประธานาธิบดีทรัมป์เผยเป็นนัยว่าอาจบรรลุข้อตกลงกับอินเดีย แต่เสียงแข็งเรื่องโอกาสการทำข้อตกลงกับญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลโตเกียวเจรจายาก สัปดาห์นี้ทรัมป์วิจารณ์ญี่ปุ่นหนักว่า “จะต้องเจอภาษี 30%, 35% หรือเท่าไรก็ตามที่เรากำหนด”

เมื่อวันอังคาร (1 ก.ค.68) ประธานาธิบดีตอบคำถามเรื่องความเป็นไปได้ของการขยายเวลาเจรจาว่า เขาไม่มีแผนขยายเส้นตายในสัปดาห์หน้า ต่อมาในวันพฤหัสบดี นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนหน้าทรัมป์ว่า ทรัมป์จะเป็นคนตัดสินใจสุดท้าย

“เราจะทำในสิ่งที่ประธานาธิบดีต้องการ และเขาจะเป็นคนตัดสินใจว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสุจริตใจหรือไม่” เบสเซนต์ ตอบข้อซักถามของซีเอ็นบีซีเรื่องการยืดเส้นตายการเจรจา

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์