ทรัมป์ลิสต์รายชื่อแบงก์ชาติทั่วโลกรวม 'ไทย' กดดัน 'เฟด' ต้องลดดอกเบี้ยตาม

ทรัมป์ลิสต์รายชื่อแบงก์ชาติทั่วโลกรวม 'ไทย' กดดัน 'เฟด' ต้องลดดอกเบี้ยตาม

ทรัมป์เพิ่มแรงกดดันเฟดลดดอกเบี้ย ล่าสุดส่งลิสต์ตัวอย่างแบงก์ชาติทั่วโลกรวมถึง 'ไทย' พร้อมเขียนคอมเมนต์ด้วยลายมือตัวเอง กดดันให้ 'พาวเวลล์' ต้องลดดอกเบี้ยตาม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เดินหน้าเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดได้ส่งรายชื่อธนาคารกลาง 44 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึง "ประเทศไทย" พร้อมความเห็นที่เขียนด้วยลายมือตัวเอง กดดันให้ "เจอโรม พาวเวลล์" ประธานเฟด ต้องปรับลดดอกเบี้ยตาม

ในความเห็นที่เป็นลายมือของทรัมป์ระบุว่า เฟดควรลดอัตราดอกเบี้ยให้ลงมาอยู่ที่ระหว่างอัตรา 0.25% - 1.75% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยในกลุ่ม "6 ประเทศหัวแถว" ที่ทรัมป์ยกตัวอย่างว่ามีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด ได้แก่

  • สวิตเซอร์แลนด์    0.25%
  • กัมพูชา                0.45%
  • ญี่ปุ่น                   0.50%
  • เดนมาร์ก             1.75%
  • หมู่เกาะเซเชลส์    1.75%
  • ไทย                     1.75%

ทรัมป์ลิสต์รายชื่อแบงก์ชาติทั่วโลกรวม 'ไทย' กดดัน 'เฟด' ต้องลดดอกเบี้ยตาม

ในทางกลับกัน สหรัฐกลับอยู่ในกลุ่ม "ประเทศท้ายตาราง" ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดที่ทรัมป์ยกตัวอย่างมา ซึ่งรวมถึงประเทศเวียดนามด้วย

"เจอโรม คุณมักจะช้าเกินไปอีกตามเคย! คุณทำให้อเมริกาสูญเสียเงินมหาศาล และยังคงทำให้สูญเสียต่อไป คุณควรจะลดอัตราดอกเบี้ยลงให้มาก!" ข้อความที่เขียนด้วยลายมือของทรัมป์ระบุ 

เจ้าตัวยังวิพากษ์วิจารณ์พาวเวลล์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวด้วยว่า การเป็นนายธนาคารกลางของสหรัฐ "เป็นหนึ่งในงานที่ง่ายที่สุดแต่มีเกียรติที่สุดในอเมริกา แต่พวกเขาก็ล้มเหลว...เราควรจ่ายดอกเบี้ย 1% หรือต่ำกว่านั้น!"

ทรัมป์ลิสต์รายชื่อแบงก์ชาติทั่วโลกรวม 'ไทย' กดดัน 'เฟด' ต้องลดดอกเบี้ยตาม

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 4.25% – 4.50% หลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมา 3 ครั้ง ลดไปรวม 1.0% ส่วนในปีนี้ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของรายงาน Dot Plot ที่เฟดจะเปิดเผยทุกสิ้นไตรมาส พบว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% และคาดว่าจะเริ่มในช่วงประมาณเดือนก.ย.  

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันอย่างต่อเนื่องของทรัมป์ทำให้ตลาดเริ่มโน้มเอียงไปทางคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หรือมากขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์กันเอาไว้ โดยล่าสุด ธนาคาร Goldman Sachs ปรับคาดการณ์ใหม่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง คือเดือนก.ย., ต.ค. และ ธ.ค. 

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีกรรมการเฟด 2 ราย เริ่มส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดลดดอกเบี้ย คือ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นตัวเต็งที่ทรัมป์อาจเสนอชื่อเป็นประธานเฟดคนต่อไป และมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นรองประธานเฟดฝ่ายกำกับดูแลที่ทรัมป์เป็นคนแต่งตั้งเมื่อเดือนมี.ค. และทั้งสองคนนี้ยังเป็นสมาชิกในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่ดูแลเรื่องอัตราดอกเบี้ยโดยตรงด้วย 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์