จีนนับหมื่นคนเที่ยว ‘ไทยเฟส ปักกิ่ง’ ปี 2025 ทิศทางท่องเที่ยวไทย

งานเทศกาลไทย “ Thai Festival 2025” ครั้งที่ 10 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานกิจกรรม ใกล้ศาลามิตรภาพไทย-จีน ในสวนสาธารณะเฉาหยางกลางกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน และต่างชาติกว่า 15,000 คน เดินทางร่วมงานทั้งสองวันอย่างคึกคัก ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนานของเวทีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย และการแสดงร่วมสมัยที่หลากหลาย ได้ดึงดูดผู้คนตลอดทั้งวัน

นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์ว่า การจัดงานไทยเฟสปีนี้ ถือเป็นครั้งแรกจัดขึ้นภายในสวนสาธารณะแห่งใหญ่ในปักกิ่ง ภายใต้ธีม “Creative Thailand” ที่เน้นการโปรโมทประเทศไทย ในมิติส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือครีเอทีฟอีโคโนมี ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันความต้องการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีนหลายด้าน และเชื่อมโยงระดับประชาชน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้ดียิ่งๆขึ้น

ทูตฉัตรชัย กล่าวว่า สถานทูตฯและทีมไทยแลนด์ มุ่งการส่งเสริมความนิยมไทยผ่านผลิตภัณฑ์สมัยใหม่ต่างๆ ที่มาจากการสร้างสรรค์ สะท้อนความเป็นไทยที่นำมาใช้ได้ในชีวิตจริง

“เมื่อนักท่องเที่ยวจีนรู้สึกประทับใจ มีความนิยมไทยผ่านซอฟต์พาวเวอร์ หรือบางคนถูกฟื้นความทรงจำครั้งที่เคยท่องเที่ยวไทย ผ่านบรรยากาศศิลปะวัฒนธรรม ความบันเทิงแบบไทยๆ อาหาร การบริการที่เป็นสเน่ห์ของไทย ทำให้ชาวจีนอยากเดินทางกลับไปเที่ยวประเทศไทยอีกหลายๆครั้ง” ทูตฉัตรชัยกล่าว

งานไทยเฟสติวัลปีนี้ จัดขึ้น ณ ลานรวมใจ บริเวณใกล้กับศาลามิตรภาพไทย-จีน ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ความสัมพันธ์สองประเทศ ทั้งนี้ ไทยเฟส เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568

อัตลักษณ์ไทย ส่งเสริมท่องเที่ยวไทย

“ภายในงานไทยเฟสมีกิจกรรมหลากหลาย ที่ช่วยส่งเสริมอัตลักษณ์ความเป็นไทย โดยเฉพาะอาหารไทยออเทนติก ซึ่งสถานทูตฯต้องการให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้สัมผัสความเป็นดังเดิมอย่างแท้จริง อย่าง “ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การ UNESCO ดังนั้น สถานทูตฯ จึงได้เปิดครัวโชว์ทำต้มยำกุ้งแบบดั้งเดิมภายในงานไทยเฟส เพื่อให้ชาวจีนได้ชิมอาหารรสชาติแบบไทยที่แท้จริง” ทูตฉัตรชัยเล่า พร้อมเดินแนะนำไปตามบูธร้านอาหารไทยที่นำมาจัดแสดงภายในงาน

ทั้งนี้ งานเทศกาลไทย นอกจากนำเสนอวัฒนธรรมไทยในหลายด้าน ยังครอบคลุมถึงการจำหน่ายสินค้าและแนะนำบริการที่สะดวกสบายของสายการบินไทย และสายการบินไหหนาน ซึ่งเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างไทย-จีน

“ภายในงานไทยเฟส ยังแนะนำวิธีการเลือกทุเรียน และการปลอกทุเรียนด้วยขั้นตอนง่ายๆ ซึ่งจะเป็นทักษะเฉพาะที่ช่วยให้ชาวจีนได้ลิ้มรสชาติทุเรียนไทยแท้ๆ และนี่แหละรสชาติผลไม้ของไทย” ทูตฉัตรชัยกล่าวและเสริมว่า ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าบริการของไทย ขณะเดียวกัน ทำให้ชาวจีนรู้สึกพิเศษกับการเข้าถึงเอกลักษณ์เฉพาะของสินค้าไทย

ยกสวนทุเรียน ผลไม้ไทยไว้ในงานไทยเฟสฯ

ด้านนายปรัตถกร แท่นมณี อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเกษตร (สนง.เกษตร) ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวว่า แม้หลายประเทศจะนำเข้าทุเรียน และผลไม้อื่นคล้ายๆประเทศไทยไปจีนมากขึ้น แต่ความนิยมทุเรียนไทยในหมู่ชาวจีนไม่มีตก ดังนั้นงานไทยเฟสครั้งนี้ จึงได้นำผลไม้ไทยที่หลากหลาย นำโดยทุเรียน มังคุด ลำใย มะม่วง มะพร้าวน้ำหอมพร้อมรับประทาน และอื่นๆอีกมาก เหมือนกับนำสวนผลไม้จากไทย มาไว้ที่เฉาหยางปาร์คกลางกรุงปักกิ่ง ก็เพราะตั้งใจอยากให้ชาวจีนได้ชิมผลไม้ไทยสดๆ โดยจะได้รับประทานผลไม้สดกว่านี้อีก หากเดินทางไปที่สวนผลไม้ที่ประเทศไทย

ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกผลไม้ไทย มายังตลาดจีนสูงถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์ โดยมีทุเรียนเป็นสินค้าหลัก และยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

นายปรัตถกร กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากผลไม้ที่นำมาจำหน่ายและแจกจ่ายให้ชิมกันภายในงานแล้ว ยังมีอาหารแห่งอนาคต (Future food) ทำมาจากจิ้งหรีด และไข่ผำ เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ  โดยชาวจีนและต่างชาติที่มาเที่ยวงานนี้ได้ให้การตอบรับดี เพราะมีชาวจีนกลุ่มหนึ่งตื่นตัวในการดูแลสุขภาพอยู่แล้ว และเลือกบริโภคอาหารที่เน้นธรรมชาติมากขึ้น

“แม้จะเห็นความท้าทายต่อการนำเข้าฟิวเจอร์ฟู้ดในตลาดจีน แต่กลุ่มลูกค้าชาวจีนก็ให้ความสนใจอย่างยิ่งและเปิดรับฟิวเจอร์ฟู้ดของไทย ทั้งที่ราคาอาจจะสูง ดังนั้นงานไทยเฟสทำให้เห็นชัดเจนว่าลูกค้าชาวจีนกลุ่มไหนต้องการ และสนใจเลือกซื้อประเภทอาหารฟิวเจอร์ฟู้ดกันอยู่” นายปรัตถกรกล่าว

5 MUST DO เที่ยวตะลุย ‘อีสาน’

ด้านยลรวี สิทธิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งไทย (ททท.) ประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ได้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในงานไทยเฟส เน้นโปรโมทสถานที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสาน ของประเทศไทย โดยชูแนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND ที่จะพานักท่องเที่ยวชาวจีน ไปสัมผัสกับกิจกรรมและวิถีชุมชนที่หลากหลายของเมืองน่าเที่ยวในภาคอีสาน

5 MUST DO IN THAILAND ได้แก่ MUST TASTE พบเมนูเด็ดต้องลองชิม MUST TRY กิจกรรมต้องลองลุย MUST BUY สินค้าท้องถิ่น ไอเทมอาร์ต ๆ ที่ต้องลองช้อป MUST SEEK วิวสวยต้องลองหา MUST SEE ไลฟ์สไตล์แบบคนท้องถิ่นต้องลอง บอกเลยสายเที่ยวต้องไม่พลาดไปเช็กอิน 

“หนึ่งในไฮไลท์ ททท.ได้โปรโมทให้นักท่องเที่ยวจีนได้ไปสัมผัสบรรยากาศความมหัศจรรย์ของปรากฏการณ์พระอาทิตย์ขึ้น-ตกตรง 15 ช่องประตู ปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งในแต่ละปีจะมีอยู่ด้วยกันหลายช่วง เชื่อว่าจะตรงกับความสนใจกับชาวจีนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบน่าค้นหา” ยลรวีเล่า

สำหรับภายในงานไทยเฟส ททท.ปักกิ่ง ได้จัดกิจกรรมหลากหลาย ซึ่งก็เกินความคาดหมายมาก เพราะมีชาวจีนจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานตลอดทั้งวันอย่างไม่ขาดสาย ดั่งจะเห็นว่า ชาวจีนชอบกิจกรรมงานประดิษฐ์ที่เป็นศิลปะเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวไทย หลายคนยอมใช้เวลาต่อแถวนาน เพื่อร่วมทำตุงแบบภาคอีสาน และงานพิมพ์ลายทองบนผืนผ้า ซึ่งการร่วมงานฝีมือนี้ก็ได้เป็นที่ระลึกกลับไปด้วย นอกจากนี้ ยังตั้งโฟโต้บูธเป็นภาพทิวทัศน์สวยงาม สถานที่สำคัญๆ และแสดงกลิ่นอายสัญลักษณ์ในภาคอีสาน

ภายในงานยังมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้ร่วมออกบูธแนะนำหลักสูตรด้านการศึกษาที่กำลังอยู่ในความสนใจของเยาวชนจีน และสอดคล้องกับบริบทสังคมจีน เช่น หลักสูตรเฉพาะวิชาชีพ การบิน การศึกษาเพื่อชะลอวัย และคหกรรมอาหารเพื่อผู้สูงวัย เป็นต้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้ปกครองและนักเรียนชาวจีนจำนวนมาก

ตอกเข็มความนิยมไทย ผ่านสินค้าบันเทิง

นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจำหน่ายอาหารไทยจากร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อในกรุงปักกิ่ง ตลอดจนเครื่องดื่มยอดฮิต สินค้าไทยที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อจากไทย และผลิตภัณฑ์ไทยสมัยใหม่หลากหลายภายในงานไทยเฟส

โดยตลอดทั้งงานได้มีการจัดแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยดั้งเดิม โขนหนุมาน การรำเกี่ยวข้าว มวยไทย การรำและระบำของเยาวไทยจีนร่วมกัน หมอลำอินเตอร์ จับรางวัล และการแสดงอื่นๆอีกมากมาย

ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตของซาร่าห์ ซาโรลา นักร้องขวัญใจวัยรุ่นชาวจีนที่ได้สร้างความบันเทิง และบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นเชื่อมความสัมพันธ์ไทยและจีน

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติที่เข้าร่วมงาน ส่วนใหญ่อยู่ในปักกิ่งและชานเมืองใกล้เคียง ขณะที่มีชาวจีนอีกมาก แม้จะเดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ได้ติดตาม การถ่ายทอดสดเทศกาลไทย ผ่านทางถานีวิทยุและโทรทัศน์ปักกิ่ง Deeplife แค่เฉพาะวันที่ 28 มิถุนายน มีผู้ชม 51,440 คน และยอดคนไลค์มากถึง 320,000 ครั้ง ถือเป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์