ทรัมป์ ล้มโต๊ะเจรจาการค้ากับแคนาดา เพื่อตอบโต้ภาษีดิจิทัล

ทรัมป์ ล้มโต๊ะเจรจาการค้ากับแคนาดา เพื่อตอบโต้ภาษีดิจิทัล

ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศยุติการหารือการค้ากับแคนาดาทั้งหมดเพื่อเป็นการตอบโต้ภาษีบริการดิจิทัลของแคนาดา และขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ภายในสัปดาห์หน้า

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้ยุติการหารือการค้ากับแคนาดาทั้งหมดเพื่อเป็นการตอบโต้ภาษีบริการดิจิทัลของแคนาดา และขู่ว่าจะกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดา ภายในสัปดาห์หน้า

“จากภาษีที่ร้ายแรงนี้ เราจึงขอยุติการหารือทั้งหมดเกี่ยวกับการค้ากับแคนาดา โดยมีผลทันที เราจะแจ้งให้แคนาดาทราบถึงภาษีศุลกากรที่พวกเขาจะต้องจ่ายเพื่อทำธุรกิจกับสหรัฐอเมริกาภายในระยะเวลาเจ็ดวันข้างหน้า” ทรัมป์โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์ (27มิ.ย.)

สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับทีวีซีเอ็นบีซี ว่าเขาคาดหวังว่ารัฐบาลจะเปิดการสอบสวนแคนาดาตามกฎหมายการค้ามาตรา 301  ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สหรัฐฯ ใช้กับประเทศอื่นๆ รวมถึงจีน ซึ่งอาจส่งผลให้มีการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้น

แคนาดาและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์การค้าทวิภาคีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการมูลค่ากว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกันตึงเครียดมากขึ้นตั้งแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา 25% และกล่าวย้ำหลายครั้งว่าเขาคิดว่าแคนาดาควรเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ 

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เขาได้เก็บภาษีเหล็ก อลูมิเนียม รถยนต์ และสินค้าอื่นๆ

เพื่อตอบโต้ ชาวแคนาดาจำนวนมากจึงคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐฯ และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในสหรัฐฯ

 

นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ กล่าวสั้นๆ ระหว่างเดินออกจากการประชุมเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่ได้พูดคุยกับทรัมป์เลยตั้งแต่เขาโพสต์ข้อความ “เราจะดำเนินการเจรจาที่ซับซ้อนเหล่านี้ต่อไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาวแคนาดา” เขากล่าว

ค่าเงินดอลลาร์แคนาดา ร่วงลงมากกว่า 0.5% เกือบจะทันทีหลังจากทรัมป์โพสต์ ก่อนที่จะพลิกกลับการร่วงลงดังกล่าว ดัชนีหุ้นอ้างอิงของแคนาดาลดลง ปิดวันลดลง 0.2% และหุ้นของบริษัทที่พึ่งพาการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน รวมถึง General Motors  และ Canada Goose Holdings  ผู้ผลิตเครื่องแต่งกาย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

หลายสิบประเทศกำลังเผชิญกับเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ภาษีศุลกากรอัตราสูงของทรัมป์กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้ง และ หลายประเทศได้เข้าร่วมการเจรจากับสหรัฐฯ เส้นตายดังกล่าวไม่ใช้กับแคนาดาและเม็กซิโก ประธานาธิบดีได้กำหนดภาษีศุลกากรต่อเพื่อนบ้านในอเมริกาเหนือของสหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ในประเด็นการควบคุมการค้าสารเสพติดเฟนทานิลและปัญหาคนอพยพเข้าเมือง 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์และคาร์นีย์ได้พบกันที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ(G-7) และตกลงที่จะพยายามบรรลุข้อตกลงภายในกลางเดือนกรกฎาคม

กลุ่มธุรกิจเรียกร้องให้แคนาดายกเลิกภาษีดิจิทัล

กลุ่มธุรกิจและนักการเมืองบางคนได้กดดันคาร์นีย์อย่างทันทีเพื่อขอให้ยกเลิกภาษีดิจิทัล “เพื่อพยายามให้การเจรจาการค้ากลับมาเป็นปกติ แคนาดาควรเสนอข้อเสนอในทันทีเพื่อยกเลิกภาษีดิจิทัล เพื่อแลกกับการยกเลิกภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ” โกลดี ไฮเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาธุรกิจแห่งแคนาดากล่าว

ดัก ฟอร์ด มุขมนตรีรัฐออนแทรีโอ ย้ำคำเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแคนาดายกเลิกภาษีดิจิทัลอีกครั้ง

 “เราได้สนับสนุนมาอย่างยาวนานต่อแนวคิดที่ว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลกควรจ่ายภาษีอย่างยุติธรรมในประเทศที่พวกเขาดำเนินธุรกิจ แต่ภาษีบริการดิจิทัลยังไม่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว”สภานวัตกรรมแคนาดา (Council of Canadian Innovators) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้บริหารด้านเทคโนโลยี กล่าวในแถลงการณ์ “โดยหน้าที่แล้วภาษีนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้โฆษณาและผู้บริโภคชาวแคนาดาจ่าย และปล่อยให้เศรษฐกิจของเราเผชิญกับการตอบโต้ทางการค้าที่รุนแรง”

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เบสเซนต์ได้ประกาศข้อตกลงกับประเทศ G-7 อื่นๆ ที่จะยกเว้นบริษัทในสหรัฐฯ จากภาษีบางประเภทที่เรียกเก็บโดยประเทศอื่นๆ เพื่อแลกกับการยุติ “ภาษีแก้แค้น” ตามมาตรา 899 ออกจากร่างกฎหมายภาษีของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงภาษีบริการดิจิทัล ซึ่งมีผลบังคับใช้ในหลายประเทศ แต่ถูกคัดค้านโดยทรัมป์และเจ้าหน้าที่ของเขา

ภาษีดิจิทัลแคนาดา ไม่ใช่เรื่องใหม่ ภาษีดังกล่าวผ่านเป็นกฎหมายเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่บริษัทต่างๆ ยังไม่ต้องจ่าย

รัฐบาลจะดำเนินการเก็บภาษีนี้ โดยกำหนดชำระเงินงวดแรกในวันจันทร์ กระทรวงการคลังของแคนาดากล่าวเมื่อเช้าวันศุกร์ ก่อนที่ทรัมป์จะโพสต์ข้อความ

กลุ่มธุรกิจเตือนว่าภาษีดังกล่าวจะเพิ่มต้นทุนของบริการและอาจทำให้สหรัฐฯ ตอบโต้

เมื่อต้นเดือนนี้ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวน 21 คนได้เขียนจดหมายถึงทรัมป์เพื่อขอให้เขาผลักดันให้ยกเลิกภาษีดังกล่าว โดยประเมินว่าภาษีดังกล่าวจะทำให้บริษัทสหรัฐฯ สูญเสียเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์ภาษีและอุปสรรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรมาเป็นเวลานาน โดยมองว่าภาษีเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อผู้ส่งออกของสหรัฐฯ

เบสเซนต์กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า "เราหวังว่าฝ่ายบริหารของคาร์นีย์ชุดใหม่จะชะลอการดำเนินการดังกล่าวในระหว่างการเจรจาการค้า ซึ่งถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ดี"

เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์บิสซิเนสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ขอเลื่อนการจัดเก็บภาษีออกไป 30 วันโดยเฉพาะเมื่อทรัมป์และคาร์นีย์พบกันที่กลุ่มประเทศ G-7

ภาษีบริการดิจิทัลของแคนาดามีลักษณะคล้ายกับภาษีที่บังคับใช้ในประเทศอื่นๆ รวมถึงสหราชอาณาจักรด้วย อัตราภาษีดังกล่าวคิดเป็น 3% ของรายได้จากบริการดิจิทัลที่บริษัทได้รับจากผู้ใช้ชาวแคนาดา ที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านดอลลาร์แคนาดา (14.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในหนึ่งปี

ภาษีดังกล่าวจะบังคับใช้กับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Meta Platforms , Alphabet  และ Amazon.com ภาษีนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เล่นรายย่อย เช่น Uber Technologies  และ Etsy  “เราผิดหวังกับการตัดสินใจของรัฐบาลแคนาดาที่จะจัดเก็บภาษีที่เลือกปฏิบัติซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคในแคนาดา และเราหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้” โฆษกของ Amazon กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล

 ฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ แชมเปญรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของแคนาดากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าภาษีดิจิทัลอาจมีการทบทวนใหม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการหารือทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา

 

“เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เรากำลังพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของการหารือในวงกว้าง” เขากล่าว