'ภาษีทรัมป์' อาจก่อต้นทุนใหม่ให้ 'Nike' สูงถึง 30,000 ล้านบาท

'ภาษีทรัมป์' อาจก่อต้นทุนใหม่ให้ 'Nike' สูงถึง 30,000 ล้านบาท

‘Nike’ ประกาศข่าวดีว่า ‘ยอดขายและผลกำไรที่ลดลง’ จะเริ่มดีขึ้น นับเป็นสัญญาณเชิงบวกให้เห็น แต่ไนกี้ยังคงต้องเผชิญกับภาษีทรัมป์ ซึ่งต้นทุนใหม่นี้ถูกคาดว่า จะสูงถึง 32,000 ล้านบาทในปีงบประมาณปัจจุบัน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทผลิตเครื่องกีฬา “ไนกี้” (Nike) ได้ประกาศคาดการณ์ว่า ยอดขายและผลกำไรที่ลดลง จะเป็นไปในทิศทางดีขึ้น หลังจากที่ Nike ได้รับผลกระทบทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดจากแผนพลิกฟื้นธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ

แม้ว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจผ่านพ้นไปแล้ว แต่บริษัทก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น ภาษีศุลกากร ซึ่งทำให้การพลิกฟื้นธุรกิจที่ยากอยู่แล้ว ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก โดยในการประชุมทางโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์ แมตต์ เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) เรียกภาษีนำเข้าเหล่านี้ว่าเป็น “ต้นทุนใหม่ที่สำคัญ”

เฟรนด์กล่าวว่า “ด้วยอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน เราประมาณการว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสุทธิสำหรับ Nike จะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 32,000 ล้านบาทในปีงบประมาณปัจจุบัน 2026 ของบริษัท”

เฟรนด์เสริมว่า บริษัทตั้งใจที่จะ “บรรเทา” ต้นทุนดังกล่าวให้หมดไปในที่สุด โดยจะปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน ทำงานร่วมกับโรงงานและพันธมิตรค้าปลีก รวมถึงการปรับขึ้นราคา

ปัจจุบัน ห่วงโซ่อุปทานประมาณ 16% ของ Nike อยู่ในจีน และบริษัทคาดว่าจะลดสัดส่วนดังกล่าวให้เหลือประมาณ 7-9% ภายในสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะสิ้นสุดในฤดูร้อนหน้า

เฟรนด์กล่าวว่า “แม้ว่าภาษีสำหรับสินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐ จะสูงขึ้นในปัจจุบัน แต่กำลังการผลิตและความสามารถในการผลิตในจีน ยังคงมีความสำคัญต่อฐานการผลิตทั่วโลกของเรา” พร้อมเสริมว่า “บริษัทจะพิจารณาลดต้นทุน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ยังคงเป็นการสร้างเสถียรภาพให้กับธุรกิจ ซึ่งจำเป็นต้องมีการลงทุน”

เฟรนด์เล่าต่อว่า เมื่อดำเนินการตามความพยายามเหล่านั้นแล้ว ผลกระทบทางการเงินต่ออัตรากำไรขั้นต้นในปีงบประมาณ 2026 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.75 จุดเปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะมีผลกระทบมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี

แม้ว่าความคาดหวังของ Wall Street จะอยู่ในระดับต่ำก่อนการรายงานผลประกอบการ แต่ Nike ก็สามารถทำผลงานได้ “ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้” ทั้งในส่วนของรายได้และผลกำไร

นี่คือผลประกอบการของบริษัทในช่วง 3 เดือนที่สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม เมื่อเทียบกับการประมาณการของนักวิเคราะห์ที่สำรวจโดย LSEG:

- กำไรต่อหุ้น (EPS): 14 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 13 เซนต์

- รายได้: 11,100 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 10,720 ล้านดอลลาร์

บริษัทรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 211 ล้านดอลลาร์ หรือ 14 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 99 เซนต์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา

ส่วนยอดขายลดลงเหลือ 11,100 ล้านดอลลาร์ ลดลงประมาณ 12% จาก 12,610 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อนหน้า

เมื่อไตรมาสที่แล้ว Nike เคยเตือนว่า ไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณจะเป็นจุดต่ำสุดของแผนการพลิกฟื้น แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์กลับแย่ลง ทำให้นักลงทุนสงสัยว่า อาจจะยังต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นกว่านี้หรือไม่

อ้างอิง: cnbc