'ทรัมป์' ปรับงบกลาโหม เล็งซื้อขีปนาวุธ-โดรนไฮเทค อาวุธสำคัญสงครามยุคใหม่

'ทรัมป์' ปรับงบกลาโหม เล็งซื้อขีปนาวุธ-โดรนไฮเทค อาวุธสำคัญสงครามยุคใหม่

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับงบกลาโหม เล็งซื้อขีปนาวุธและโดรนไฮเทคเพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นอาวุธที่สำคัญในสงครามหรือความขัดแย้งยุคใหม่

ตามเอกสารงบประมาณที่เผยแพร่ล่าสุดในวันพุธ (25 มิ.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐต้องการใช้จ่ายงบประมาณทางทหารเพิ่ม โดยใช้จ่ายงบประมาณกลาโหมในปีหน้าไปกับขีปนาวุธและโดรนไฮเทคมากขึ้น และจะลดคนในกองทัพเรือ และซื้อเรือกับเครื่องลดลง

จากงบประมาณ 8.926 แสนล้านดอลลาร์ของปี 2026 งบฯ สำหรับการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติยังคงคงที่ เมื่อเทียบกับงบประมาณกลาโหมในปีนี้

งบฯ สำหรับการทหาร ซึ่งรวมถึงงบฯ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ของกระทรวงพลังงาน และการเพิ่มงบให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อกองทัพของทรัมป์ ด้วยการย้ายงบฯ ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์และงบฯ สำหรับเหล่าทัพต่างๆ นำไปใช้ในภารกิจอื่นๆ ที่ประธานาธิบดีจัดลำดับความสำคัญใหม่

ทำเนียบขาวระบุว่า การปรับเปลี่ยนงบประมาณดังกล่าว เป็นไปเพื่อยับยั้งการรุกรานของจีนในอินโดแปซิฟิก และฟื้นฟูฐานอุตสาหกรรมด้านกลาโหม

ขณะที่งบประมาณส่วนใหญ่สำหรับการสร้างโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างโกลด์เดนโดม (Golden Dome) รวมอยู่ในร่างงบประมาณอีกฉบับ ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งงบประมาณที่เสนอต่อสภาคองเกรส

ในงบประมาณปี 2026 ทรัมป์ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อเครื่องบินรบ F-35 ไม่กี่ลำจากล็อกฮีด มาร์ติน และเล็งซื้อเรือรบเพียงสามลำ

ด้านกองทัพเรือเผยว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำเวอร์จิเนียของ General Dynamics และ Huntington Ingalls Industries รวมถึงเรืออื่นๆ อีก 15 ลำ คาดว่าจะรวมอยู่ในร่างงบประมาณฉบับอื่น

งบประมาณดังกล่าวยังได้ขอให้ปรับขึ้นเงินเดือนทหาร 3.8% และตัดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดระวางอาวุธเก่าๆ เช่น เรือและเครื่องบินเก่า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการหรือบำรุงรักษาแพงกว่า และภายใต้แผนดังกล่าว กองทัพเรือจะลดจำนวนพนักงานพลเรือนในกองทัพเรือลง 7,286 คน

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณปี 2025 ของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบว่า รัฐบาลของไบเดนขอซื้อเครื่องบินรบ F-35 จำนวน 68 ลำ ขณะที่งบประมาณปี 2026 ของปธน.ทรัมป์ สั่งซื้อเครื่องบินรบเพียง 47 ลำ

ในทางกลับกัน งบประมาณของ ปธน.ทรัมป์ ต้องการซื้อขีปนาวุธโจมตีแบบแม่นยำ (Precision Strike Missile) น้อยลงทั้งที่ขีปนาวุธชนิดนี้ถูกกำหนดให้มาใช้แทนขีปนาวุธยุทธวิธี ATACMS (Army Tactical Missile) ที่กำลังใช้งานอยู่ในยูเครนในปัจจุบัน

ดังนั้น สรุปได้ว่า ร่างงบประมาณนี้จะเน้นนำงบฯ ไปซื้อโดรนขนาดเล็กมากขึ้น เนื่องจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน พิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องบินไร้คนขับเป็นส่วนสำคัญของการสู้รบ ซึ่งใช้ต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูง

การปรับร่างงบประมาณดังกล่าวรเกิดขึ้นในขณะที่พรรครีพับลิกันกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายด้านกลาโหมจากงบฯ มูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ที่รวมอยู่ใน “ร่างกฎหมาย One Big Beautiful Bill Act” ที่กำลังรอการพิจารณา

ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และจะช่วยเพิ่มงบประมาณเบื้องต้น 25,000 ล้านดอลลาร์ให้กับการสร้างโล่ป้องกันขีปนาวุธ หรือโกลด์เดนโดมของทรัมป์ด้วย

ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว การใช้จ่ายด้านกลาโหมคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐ ส่วนที่เหลือจะนำงบฯ ไปให้กับการคมนาคม การศึกษา การทูต และหน่วยงานอื่นๆ

 

อ้างอิง: Reuters