จีนบุกตลาด ‘ทองคำ’ โลก ขยายสาขาในฮ่องกง แต่ต้องซื้อขายด้วย ‘หยวน’

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า “ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้”  Shanghai Gold Exchange (SGE) ได้ขยายธุรกิจออกนอกจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรก ด้วยการเปิดตัวสัญญาซื้อขายใหม่ 2 สัญญา พร้อมทั้งเปิดห้องนิรภัยสำหรับเก็บทองคำแท่งใน “ฮ่องกง”

ซื้อขายทองคำด้วย ‘เงินหยวน’

การขยายตัวครั้งนี้ SGE มีเป้าหมายหลายอย่าง ตั้งแต่การขยายขอบเขตการเข้าถึงตลาดต่างประเทศของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ไปจนถึงการเพิ่มอิทธิพลของจีนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงิน รวมถึงการเสริมสถานะของฮ่องกงให้เป็น “ศูนย์กลางทางการเงิน” ที่สำคัญยิ่งขึ้น

SGE ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า การซื้อขายทองคำในฮ่องกงจะดำเนินการด้วย "สกุลเงินหยวน" และสามารถชำระได้ทั้งด้วยเงินสดหรือทองคำจริง รวมถึงส่งไปยังห้องนิรภัยแห่งใหม่ที่บริหารจัดการโดย ธนาคารแห่งประเทศจีนสาขาฮ่องกง

สำหรับสัญญาซื้อขายทองคำใหม่ 2 ฉบับที่ SGE ในฮ่องกงเปิดตัววันนี้ (26 มิ.ย.68) จะครอบคลุมทองคำที่มีระดับความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกัน เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือก และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น 

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุน และกระตุ้นการซื้อขาย SGE ได้ประกาศว่าจะยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการเก็บทองคำในห้องนิรภัยในฮ่องกง ซึ่งข้อเสนอนี้จะมีผลไปจนถึงสิ้นปีนี้  

เปิดตลาดรับ ‘เงินทุนต่างชาติ’ หนุนเศรษฐกิจ

ขณะนี้ จีนเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ต้องการมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนด ราคาทองคำ และ สินค้าโภคภัณฑ์ อื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้นการที่ SGE เปิดตัวสัญญาซื้อขายทองคำใหม่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ใหญ่กว่าของรัฐบาลจีนที่ต้องการลดการพึ่งพาเงิน ”ดอลลาร์” ในการค้าขายระหว่างประเทศ และผลักดันให้มีการใช้ เงินหยวนมากขึ้น เพื่อเพิ่มอิทธิพลของจีนในเวทีการเงินโลก

SGE ก่อตั้งขึ้นในปี 2545 โดยธนาคารกลางจีนเพื่อทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มหลักในการซื้อขายทองคำแท่งของประเทศ ก่อนหน้านี้ SGE มีโกดังเก็บทองคำอยู่ 2 แห่งในเซี่ยงไฮ้ และอีก 1 แห่งในเซินเจิ้น

ในปี 2557 ทาง SGE ได้จัดตั้ง "คณะกรรมการระหว่างประเทศ" ขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดทองคำของจีนได้โดยตรง ซึ่งความพยายามในการเปิดตลาดของประเทศจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทองคำเท่านั้น แต่กำลังขยายไปยังสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ อย่างรวดเร็ว

ล่าสุด ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นตลาดหลักในการซื้อขายวัตถุดิบสำคัญๆ ของจีน เช่น น้ำมันดิบ โลหะ หรือสินค้าเกษตร ก็เพิ่งประกาศแผนการที่จะเปิดทางให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถเข้ามาลงทุนในตลาดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม  สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนที่จะเพิ่มอิทธิพลในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โลก และดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาในระบบเศรษฐกิจของตนมากขึ้น

SGE ท้าทายตลาดลอนดอน

แม้ว่า SGE จะเป็นตลาดแลกเปลี่ยนทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียว จะเป็นตลาดแลกเปลี่ยนทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งเดียวในโลก แต่ “ลอนดอน ยังคงเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำแบบ Over-the-Counter (OTC) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำมาตรฐาน (LBMA Gold Price)

ขณะเดียวกัน ศูนย์กลางอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ และฮ่องกงก็พยายามช่วงชิงส่วนแบ่งจากตลาดโลก ด้วยการพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันศูนย์กลางทางการเงินอื่นๆ ที่กำลังขยายตัวในภูมิภาคนี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับบทบาทของตนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

 

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์