‘Xiaomi’ เปิดตัว SUV คันแรก หุ้นใกล้ทำสถิติสูงสุดใหม่ มูลค่าแซง BYD

‘Xiaomi’ เปิดตัว SUV คันแรก หุ้นใกล้ทำสถิติสูงสุดใหม่ มูลค่าแซง BYD

‘Xiaomi’ เปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้าคันแรก ขวัญใจนักลงทุน หลังหุ้นพุ่ง 64% ในปีนี้ จนมีมูลค่าแซง BYD และใกล้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในฮ่องกง แม้เผชิญกับตลาด EV ที่ดุเดือดก็ตาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเปิดตัว “รถ SUV ไฟฟ้าคันแรก” ของ “Xiaomi” ในวันนี้ (26 มิ.ย.) สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนแห่งนี้ ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุน จากการที่หุ้น Xiaomi ใกล้ทำสถิติ “จุดสูงสุดครั้งใหม่” ในฮ่องกง หลังจากพุ่งขึ้น 64% ในปีนี้ 

ปัจจุบัน Xiaomi มีมูลค่าสูงถึง 1.87 แสนล้านดอลลาร์ จนมีมูลค่ามากกว่าบริษัทรถ BYD 
สำหรับรถ Xiaomi YU7 ใหม่ ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Model Y อาจช่วยให้ Xiaomi บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ โดยรถ SUV คันนี้ เป็นจุดเด่นของกลยุทธ์อีวีมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ของ Xiaomi 

จุน หลุย ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Polen Capital กล่าวว่า “ในทั่วโลก ยังไม่มีบริษัทใดที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และรถยนต์ของคุณเข้าด้วยกันได้ ขณะที่ Xiaomi มีทั้งสามอย่างนี้”

ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา หุ้นของ Xiaomi ได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า แซงหน้าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากบริษัทใช้ความสำเร็จจากธุรกิจสมาร์ทโฟนมาต่อยอดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่มีการแข่งขันสูง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองหุ้นนี้ในแง่ดีอย่างท่วมท้น และหวังว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันที่สองของ Xiaomi ที่สปอร์ตและพรีเมียมยิ่งขึ้นนี้ จะช่วยให้ Xiaomi เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นไปอีก 

นักวิเคราะห์ประเมินราคา YU7 ไว้ในช่วง 250,000-330,000 หยวน เมื่อเทียบกันแล้ว Tesla Model Y เริ่มต้นที่ 263,500 หยวน ในขณะที่ BYD Tang L SUV รุ่นไฟฟ้า ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า YU7 เพียงเล็กน้อย มีราคาขายอยู่ระหว่าง 239,800-289,800 หยวน

เอ็ดดิสัน ลี นักวิเคราะห์จาก Jefferies กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Xiaomi คือ “การเลียนแบบ Tesla” โดยมุ่งเน้นการผลิตสินค้าจำนวนน้อย แต่ขายได้ปริมาณมาก “รถคันแรกของพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถทำซ้ำความสำเร็จนั้นได้ พวกก็จะไม่สามารถขยายขนาดได้ตามที่คิดไว้"

ในการเปิดตัวในวันนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความล่าช้าในแผนของบริษัท หลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าเรือธงของพวกเขาในเดือนมีนาคม อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ Xiaomi ต้องยกเลิกการเปิดตัว YU7 ที่งาน Shanghai auto show ในเดือนเมษายน และกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลต้องเข้มงวดกฎระเบียบเกี่ยวกับระบบขับขี่อัตโนมัติเช่นนี้

สำหรับ Xiaomi จำเป็นต้องมีตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ เนื่องจาก “ธุรกิจสมาร์ทโฟน” ซึ่งเป็นแกนหลักได้เข้าสู่ “ช่วงอิ่มตัว” โดยเผชิญกับรายได้ที่ลดลงต่อเนื่องถึงสองปีในช่วงที่ตลาดโลกตกต่ำไปจนถึงปี 2023 การก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 ของบริษัทนั้น ในช่วงแรก ต้องเผชิญกับความกังวลจากทั้งภาคอุตสาหกรรมและนักลงทุน เนื่องจากต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่น ๆ อีกหลายสิบราย ท่ามกลางสงครามราคาที่ดุเดือด

อ้างอิง: bloomberg