‘ญี่ปุ่น’ ยันไม่เอาภาษีรถยนต์ 25% ชี้ผลิตในสหรัฐ เยอะกว่าส่งออกหลายเท่า

หัวหน้าทีมเจรจาการค้า ‘ญี่ปุ่น’ ยืนกรานไม่เห็นด้วย ภาษีรถยนต์ 25%
ชี้ลงทุนมหาศาล-ผลิตในสหรัฐ เยอะกว่าส่งออกหลายเท่า เพิ่มการจ้างงาน หนุนเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “เรียวเซ อาคาซาวะ” รัฐมนตรีกระทรวงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และหัวหน้าคณะเจรจาการค้ากล่าวว่า “ไม่เห็นด้วย” กับการที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% โดยให้เหตุผลว่าผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นมีการผลิตรถยนต์ในสหรัฐมากกว่าที่ส่งออกไปอย่างมาก
ผลิตในสหรัฐ เยอะกว่าส่งออก
วันนี้ (2มิ.ย.) ก่อนเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเจรจาการค้ารอบที่ 7 กับสหรัฐ อาคาซาวะได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นผลิตรถยนต์ในสหรัฐประมาณ 3.3 ล้านคันต่อปี ซึ่งสูงกว่าจำนวนที่ส่งออกไปที่นั่นถึง 1.37 ล้านคันมาก นอกจากนี้บริษัทยานยนต์ญี่ปุ่นยังลงทุนไปแล้วกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐและสร้างงานในท้องถิ่นได้ถึง 2.3 ล้านตำแหน่ง
"เราได้อธิบายให้สหรัฐรับทราบซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐอย่างมาก และตั้งใจที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนและแสวงหาจุดสมดุลต่อไป และไม่ว่าในกรณีใด เราถือว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้"
นอกจากนี้ อาคาซาวะเสริมว่าในบรรดารถยนต์ 3.3 ล้านคันที่ผลิตในสหรัฐ มีประมาณ 300,000 คันที่ถูกส่งออกจากสหรัฐ ไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งยังช่วยให้สหรัฐมีดุลการค้าเกินดุลอีกด้วย
ภาษีรถยนต์กลายเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญ ในการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศ โดยสหรัฐมุ่งไปที่การลดการขาดดุลการค้า ซึ่งปีที่ผ่านมาญี่ปุ่นเกินดุลการค้ากับสหรัฐสูงถึง 8.6 ล้านล้านเยน โดย 82% ของส่วนต่างนี้มาจาก รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์
ขณะที่ญี่ปุ่นต้องการปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของตน หลังจากการเจรจากว่า 6 รอบในระยะเวลา 2 เดือน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่สามารถตกลงเรื่องภาษีได้
อ้างอิง Bloomberg







