‘รถมือสองเลขไมล์ศูนย์’ ปัญหาใหญ่ของจีน โตไวเพราะรัฐบาลท้องถิ่นหนุน

สื่อเผย ‘รถมือสองเลขไมล์ศูนย์’ ที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในจีน เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะได้ 'รัฐบาลท้องถิ่นจีน' ช่วยสนับสนุนขับเคลื่อน หวังบรรลุเป้าหมาย GDP ของรัฐบาลกลาง
KEY
POINTS
- 'รถมือสองเลขไมล์ศูนย์' กลายเป็นประเด็นร้อนในจีนและทั่วโลก ในฐานะหนึ่งในต้นตอปัญหาของสงครามราคารถยนต์จีน
- รถเลขไมล์ศูนย์คือ รถใหม่ที่ถูกจดทะเบียนเป็นรถมือสองหลังเพิ่งออกจากสายพาน เน้นส่งออกไปต่างประเทศ ทำให้ยอดการส่งออกรถของจีนพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว
- จากเอกสารท้องถิ่นของทางการชี้ว่า 'รัฐบาลท้องถิ่นจีน' สนับสนุนธุรกิจนี้เพื่อขับเคลื่อน GDP ตามเป้าหมายของรัฐบาลปักกิ่ง
‘รถมือสองเลขไมล์ศูนย์’ (zero mileage car) กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงมากหลังจากเกิดสงครามราคารถยนต์รอบใหม่ในจีน โดยรถไมล์ศูนย์คือ รถใหม่ที่ถูกเปลี่ยนป้ายเป็นรถมือสอง เพื่อให้สามารถลดราคาลงได้เยอะและระบายสต็อกส่วนเกินให้ผู้ผลิตและดีลเลอร์ต่างๆ ได้ การบิดเบือนตลาดเช่นนี้เองที่เป็นส่วนสำคัญทำให้ตัวเลขยอดขายรถในจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างที่ควรจะเป็น
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “รัฐบาลท้องถิ่นจีน” เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการส่งเสริมรถยนต์กลุ่มนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนทำให้ยอดขายรถดูสูงเกินจริงมาหลายปีแล้ว ผ่านตลาดเกรย์มาร์เก็ตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยมีวิธีการคือ จดทะเบียนรถใหม่ทันทีที่ออกจากสายการผลิต แล้วส่งออกไปต่างประเทศในฐานะ “รถมือสอง” โดยที่ยังไม่เคยผ่านการใช้งานเลย
รอยเตอร์สอ้างเอกสารของทางการจีนรวมถึงการสัมภาษณ์ดีลเลอร์และผู้ค้ารถยนต์ 5 รายว่า รถยนต์เหล่านี้ถูกส่งออกไปขายในตลาดมือสองหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ประเทศในเอเชียกลาง และตะวันออกกลาง ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนสามารถโชว์ตัวเลขการเติบโตไปพร้อมกับการระบายสต็อกที่คั่งค้างในประเทศได้
“นี่คือผลของสงครามราคาที่กินเวลานานเกือบ 4 ปี ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆ พยายามอย่างหนักที่จะปิดการขายให้ได้มากที่สุด” ทู เล ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษา Sino Auto Insights ในมิชิแกนกล่าว
ประเด็นนี้กลายเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศและทั่วโลกหลังจากที่ผู้บริหารของค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่าง “เกรท วอลล์ มอเตอร์” (Great Wall Motor) ออกโรงวิจารณ์การขายรถมือสองเลขไมล์ศูนย์เมื่อเดือนพ.ค. ก่อนที่รายงานข่าวในสื่อระดับประเทศอย่างหนังสือพิมพ์ People's Daily เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. จะร่วมประณามปัญหานี้
พีเพิลส์เดลีซึ่งเป็นเหมือนกระบอกเสียงของบรรดาแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวหาว่า รถมือสองเลขไมล์ศูนย์เป็นตัวกดราคารถยนต์ท่ามกลางสงครามราคา และเรียกร้องให้มีการออกมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดออกมาเพื่อฟื้นระเบียบในอุตสาหกรรมนี้ใหม่
อย่างไรก็ตาม รายงานเชิงลึกของรอยเตอร์สที่อ้างอิงเอกสารนโยบายท้องถิ่นและบทความในสื่อของรัฐพบว่า รัฐบาลระดับท้องถิ่นในจีน คือเส้นเลือดสำคัญที่เป็นผู้สนับสนุนการส่งออกและจำหน่ายรถมือสองเลขไมล์ศูนย์อย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทะเยอทะยานที่ปักกิ่งกำหนดไว้
รายงานระบุว่ามีรัฐบาลท้องถิ่น 20 แห่งในจีน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ส่งออกหลักของประเทศอย่าง “กวางตุ้ง” และ “เสฉวน” ที่สนับสนุนแนวทางนี้โดยใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น การออกใบอนุญาตพิเศษสำหรับการส่งออกรถมือสองเลขไมล์ศูนย์ การเร่งรัดการขอคืนภาษี การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการส่งออก และการสนับสนุนเงินทุนกิจกรรมการสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการส่งออก
กระบวนการทำงานของตลาดส่งออกถมือสองเลขไมล์ศูนย์ก็คือ เมื่อรถใหม่ออกจากสายการประกอบ ผู้ส่งออกจะซื้อรถทันทีจากผู้ผลิตโดยตรงหรือจากตัวแทนจำหน่าย จากนั้นจะนำไปจดทะเบียนด้วยป้ายทะเบียนจีน แล้วจัดประเภทเป็น “รถยนต์มือสอง” เพื่อส่งออกไปต่างประเทศทันที ระหว่างนี้ผู้ผลิตรถยนต์ก็จะ “บันทึกการขาย” และบันทึกรายได้ลงบัญชี
การสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นอาจดูไม่สมเหตุสมผล แต่ในกรณีของระบบเศรษฐกิจจีนที่มีการวางแผนมาจากรัฐบาลกลาง การทำให้ได้ตามเป้าหมายการเติบโตอย่างรวดเร็วของยอดขายและการจ้างงาน สามารถช่วยเลื่อนตำแหน่งหรือปลดล็อกแหล่งเงินทุนใหม่ให้ได้ ในทางกลับกัน หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ปักกิ่งวางแผนมาให้ อาจนำไปสู่การปรับลดตำแหน่งตามมา
ผู้บริหารระดับสูงสองรายของอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีน เปิดเผยว่า การที่บริษัทส่งออกเหล่านี้นับทั้งมูลค่าการซื้อและการขายของรถคันเดียว มูลค่าธุรกรรมจึงมากกว่าการซื้อรถใหม่หรือมือสองถึงสองเท่า ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นพยายามโน้มน้าวให้บริษัทเหล่านี้มาลงทุนในพื้นที่ของตนเองเพื่อปั้นยอดจีดีพีอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นเพียงสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ในงจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังปล่อยให้เกิด “การผลิตเกินความต้องการ” ส่งผลให้เกิด “สงครามราคา” ที่ยืดเยื้อในประเทศ และก่อให้เกิดข้อกล่าวหาว่ามีการ “ทุ่มตลาด” รถยนต์ในต่างประเทศ
กุ่ย ตงซู เลขาธิการสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน กล่าวชื่นชมแนวทางปฏิบัติดังกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า เป็นทางเลือกสำหรับผู้ผลิตรถยนต์จีนในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศบางแห่งที่พวกเขาอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และยังช่วยตอบสนองความต้องการรถยนต์จีนของลูกค้าในต่างประเทศที่แบรนด์รถจีนยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดอีกด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์สได้ติดต่อไปยังหน่วยงานในท้องถิ่นทั้งหมดที่กล่าวถึงในบทความนี้เพื่อขอความเห็น แต่ไม่มีหน่วยงานใดตอบกลับมา ขณะที่คณะรัฐมนตรีและกระทรวงพาณิชย์ของจีนก็ไม่ได้ตอบรับการขอความเห็นเช่นกัน
ที่มากราฟิก: Nikkei Asia
รัฐบาลท้องถิ่นสนับสนุนอย่างไร
การสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำให้กระบวนการเอกสารง่ายขึ้น การจัดสรรโควตาเพิ่มสำหรับการจดทะเบียนรถยนต์ในท้องถิ่น ไปจนถึงการจัดตั้งคลังสินค้าฟรีสำหรับรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ใกล้กับพรมแดนทางบกและทางทะเลของจีน
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 คณะกรรมการด้านการวางแผนของเมือง “เซินเจิ้น” ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดและเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของจีนโดยเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Huawei และ Tencent ได้ให้คำมั่นว่าจะขยายการส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกรถยนต์ทุกประเภท 4 แสนคันต่อปี
ส่วนในเมือง “กว่างโจว” ที่อยู่ใกล้กันก็ได้ประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่า ได้สร้างกลไกเพื่อสนับสนุนและเร่งการส่งออกรถยนต์เครื่องเบนซินไมล์ศูนย์ โดยจัดสรรโควตาเพิ่มเติมสำหรับการจดทะเบียนในท้องถิ่น ซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกจำกัดไว้เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและมลพิษทางอากาศ
เปลี่ยนโฉมวงการรถยนต์จีน
หวัง เหมิง ที่ปรึกษาของสมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์จีนกล่าวว่า แนวทางนี้เริ่มต้นขึ้นหลังปี 2019 เมื่อจีนอนุญาตให้มีการส่งออกรถมือสองไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ก่อนที่ปัจจุบัน ผู้ค้าหลายพันรายจะแอบอ้างว่ารถใหม่เป็นรถมือสองเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ช่องทางดังกล่าว ซึ่งในจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์มือสอง 436,000 คัน ที่จีนส่งออกในปี 2024 คาดว่าในจำนวนนี้ 90% เป็น “รถใหม่เลขไมล์ศูนย์”
ทั้งนี้ จีนได้แซงหน้า “ญี่ปุ่น” กลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์ใหม่รายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2023 และส่งออกรถยนต์ 6.41 ล้านคันในปีที่แล้ว ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน ซึ่งหวังคาดการณ์ว่าจากจำนวนนี้ประมาณ 6% เป็นรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์
ด้านตัวแทนจำหน่าย 2 รายและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม 2 รายเปิดเผยว่า รถมือสองใหม่เอี่ยมเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็น “รถยนต์น้ำมันเบนซิน” ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการน้อยลงในตลาดจีน แต่ “รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งต้องได้รับเงินอุดหนุนการซื้อจากรัฐบาล ก็มีสัดส่วนที่ไม่น้อยเช่นกัน
Huanyu Auto ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองในนครฉงชิ่ง เริ่มขยายตลาดสู่ธุรกิจรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ในปี 2022 ซึ่งธุรกิจสร้างกำไรได้อย่างงาม โดยวิลเลียม อึ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดต่างประเทศของบริษัท กล่าวว่า ผลตอบแทนในปี 2022 และ 2023 นั้นดีมาก จนบริษัทสามารถทำกำไรได้คันละ 1 หมื่นหยวน (ราว 4.5 หมื่นบาท) สำหรับรถอีวีซีดานที่ซื้อมาในราคา 4 หมื่นหยวน และนำไปส่งขายในเอเชียกลาง
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังมากขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. “จู หัวหรง” ประธานบริษัทรถยนต์รายใหญ่ “ฉางอาน ออโตโมบิล” (Changan Automobile) เรียกร้องให้ปราบปรามการส่งออกรถใช้แล้วไมล์ศูนย์ในงานประชุมรถยนต์ของจีน โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวอาจ “สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์จีน” ในต่างประเทศ
ขณะที่ ซิง เล่ย ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษา AutoXing ในแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทอีวีจีนแก่นักลงทุนต่างชาติ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติประเมินยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์จีนด้วยความสงสัย เพราะไม่มีทางรู้ได้ว่าตัวเลขไหนเป็นของจริงหรือปั้นขึ้นมาเกินจริง
ต่างประเทศกังวลรถจีนทุ่มตลาด
การขยายตัวของตลาดส่งออกรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์ยังทำให้เกิดความกังวลขึ้นว่า จีนกำลัง “ทุ่มตลาด” รถยนต์ที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐ ในขณะที่ปักกิ่งกำลังดิ้นรนเพื่อหาตลาดส่งออกนอกสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันกำลังถูกปกป้องอย่างเข้มงวดด้วยนโยบายภาษีศุลกากร
บางประเทศเริ่มมีความกังวลว่า รถยนต์จีนที่หลั่งไหลเข้ามาจะเข้าท่วมดีลเลอร์ในประเทศและสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค จึงเริ่มมีการออกมาตรการตั้งรับกลับ
“เราเห็นความขัดแย้งและความตึงเครียดในตลาดที่มีผู้ผลิตรถยนต์อยู่แล้วอย่างชัดเจน” ไมเคิล ดันน์ ที่ปรึกษาซึ่งติดตามอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนอย่างใกล้ชิด กล่าว
ในปี 2023 “รัสเซีย” ได้ออกกฤษฎีกาแบนรถยนต์มือสองไมล์ศูนย์จากแบรนด์ที่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งสำนักงานพาณิชย์ของเมืองเฮย์เหอ ที่อยู่ใกล้ชายแดนจีน-รัสเซีย ระบุบนเว็บไซต์เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมาว่า กฎนี้ใช้กับแบรนด์จีน เช่น “เชอรี่ ฉางอาน และจีลี่”
ด้านหน่วยงานกำกับดูแลตลาดของประเทศอื่นๆ รวมถึงจอร์แดน กำลังปรับปรุง “คำจำกัดความของรถยนต์มือสอง” โดยกำหนดให้รถยนต์มีอายุนานขึ้นหลังจากการผลิตหรือออกใบอนุญาต ก่อนที่จะถูกจัดเป็นรถยนต์มือสอง
ที่มา: Reuters







