จับตาพาวเวลถูกซักหนักเรื่องดอกเบี้ย กรรมการเฟดแนะเริ่มลด ก.ค. นี้

'ประธานเฟด' เตรียมตอบข้อซักถามสภาคองเกรสสองวัน เริ่มคืนนี้ คาดถูกจี้ถามหนักทำไมยังไม่ลดดอกเบี้ย คาดดัชนีเงินเฟ้อเที่จะเปิดเผยในสัปดาห์ อาจขยายเพิ่มขึ้นน้อย 0.1% ต่อเนื่อง ขณะที่กรรมการเฟด 2 ราย เริ่มสนับสนุนการลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนก.ค.
ในวันนี้ "เจอโรม พาวเวล" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นให้การตอบข้อซักถามต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีการซักถามอย่างหนักว่าเหตุใดเขาและคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จึงดูเหมือนมุ่งมั่นที่จะ "คงอัตราดอกเบี้ย" เอาไว้อย่างน้อยจนถึงเดือนกันยายน โดยไม่สนใจข้อเรียกร้องอย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กระตุ้นให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงได้แล้ว
พาวเวลจะขึ้นให้การตอบข้อซักถามต่อคณะกรรมมาธิการบริการภาคการเงินของสภาผู้แทนราษฎร ในวันอังคารที่ 24 มิ.ย. นี้ 10 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 3 ทุ่มตามเวลาในไทย และพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ในเวลาเดียวกันจะให้การกับคณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภา
การปรากฏตัวของประธานเฟดในครั้งนี้มีขึ้นไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ประชุม FOMC มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นครั้งที่สี่ติดต่อกัน และยังมีเกิดขึ้นหลังจากที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การที่สหรัฐร่วมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ จนดันราคาน้ำมันทั่วโลกพุ่งสูง ก่อนที่ล่าสุดในวันนี้ทรัมป์จะประกาศว่าอิสราเอลและอิหร่านตกลงที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกันแล้ว และทำให้ตลาดทุนคลี่คลายความกังวลลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า เป็นที่คาดว่าพาวเวลจะถูกคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสทั้งสองสภาซักถามใน 5 ประเด็นหลักๆ ดังนี้
ดอกเบี้ยและเศรษฐกิจ
พาวเวลล์กล่าวกับนักข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเฟดอยู่ในสถานะที่สามารถ "รอ" ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจได้ ก่อนที่จะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงอยู่ในสภาพที่มั่นคง และในที่สุดแล้วส่วนหนึ่งของต้นทุนของภาษีศุลกากรที่ต้องจ่ายจะตกอยู่ที่ผู้บริโภคปลายทาง
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ยังไม่ส่งผลให้ราคาผู้บริโภคและอัตราการว่างงานสูงขึ้นตามที่ผู้กำหนดนโยบายเตือนไว้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม ซึ่งจะถือเป็นช่วงเวลา 3 เดือนที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
นอกจากนี้ กรรมการเฟด 2 คนอย่าง คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และ มิเชลล์ โบว์แมน เริ่มส่งสัญญาณว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรต่อราคามีแนวโน้มจะเป็นแค่ระยะสั้น และอาจสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ที่จะถึงนี้
สถานการณ์อิหร่าน
ในการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาวเวลล์มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยระบุเพียงว่า กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับคนอื่น มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นเมื่อเกิดความวุ่นวายในตะวันออกกลาง แต่ก็มีแนวโน้มว่าราคาจะลดลงตามมา โดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้มักจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะยาว
แรงกดดันทางการเมือง
เป็นที่คาดว่าสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกัน จะกดดันให้พาวเวลต้องหาข้อแก้ตัวที่ชัดเจนสำหรับการรอดูท่าทีของเฟด อย่างไรก็ตาม หากสมาชิกสภาคองเกรสรายอื่นๆ เดินตามแนวทางแข็งกร้าวของทรัมป์ พาวเวลอาจเผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงยิ่งขึ้น
“ประธานพาวเวลล์สมควรได้รับเครดิตสำหรับการฝ่าฟันอุปสรรคที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่” แดน มิวเซอร์ ส.ส. จากเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการฯ โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “แต่ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ยจึงยากที่จะมองข้าม”
มาร์ก เกิร์ตเลอร์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก คาดการณ์ว่า ประธานเฟดจะไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดันทางการเมือง ขณะเดียวกันพาวเวลก็อาจได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสพรรคเดโมแครต ซึ่งจะช่วยย้ำเตือนเรื่องความเป็นอิสระของธนาคารกลางจากการคุกคามของพรรครีพับลิกัน
จับตาวาระผ่อนคลายการกำกับดูแล
ปัจจุบัน ทำเนียบขาวกำลังผลักดันวาระการผ่อนคลายกฎระเบียบการกำกับดูแล และมีหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐที่รับลูกดำเนินการอยู่ ขณะที่ทรัมป์เองก็เพิ่งแต่งตั้งโบว์แมน เป็นรองประธานเฟดฝ่ายการกำกับดูแล
เมื่อวันจันทร์ โบว์แมนกล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนเรื่องทุนสำรองของแบงก์พาณิชย์ ซึ่งบรรดานายแบงก์และผู้กำหนดนโยบายบางส่วนมองว่า เป็นอุปสรรคที่กีดขวางแบงก์ในการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่บลูมเบิร์กเคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า เฟดและหน่วยงานกำหนดนโยบายส่วนหนึ่งจะเสนอให้มีการลดอัตราส่วนเงินกองทุนส่วนเพิ่ม (SLR) ซึ่งเป็นกฎที่มีขึ้นหลังวิกฤติซับไพรม์ปี 2008
ดอกเบี้ยเงินสำรองแบงก์พาณิชย์
นอกจากนี้ พาวเวลล์ยังมีแนวโน้มที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับข้อเสนอของวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ จากรัฐเท็กซัส พรรครีพับลิกัน ที่ห้ามไม่ให้เฟดจ่ายดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงินที่นำเงินสำรองมาฝากกับเฟด (IOER) โดยอ้างว่าจะช่วยประหยัดเงินได้ถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นเวลาสิบปี แต่บรรดานักวิเคราะห์หลายคนโต้แย้งว่าการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของเฟดในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น







