นานาชาติ 'เสียงแตก 3 ขั้ว' หลังทรัมป์ถล่มอิหร่าน สันติภาพโลกแขวนบนเส้นด้าย?

นานาชาติ 'เสียงแตก 3 ขั้ว' หลังทรัมป์ถล่มอิหร่าน สันติภาพโลกแขวนบนเส้นด้าย?

ปฏิบัติการโจมตี “ฐานนิวเคลียร์อิหร่าน” โดยสหรัฐ สร้างแรงสะเทือนการเมืองระหว่างประเทศขึ้น แบ่งท่าทีของชาติต่าง ๆ เป็น 3 กลุ่ม ฝ่ายที่เห็นด้วยและยกย่องความเด็ดขาดในการยับยั้งภัยนิวเคลียร์ ฝ่ายที่ประณามว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และฝ่ายที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง หันหน้ากลับสู่โต๊ะเจรจา

สร้างความประหลาดใจให้ทั่วโลก เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากถล่ม “ฐานนิวเคลียร์อิหร่าน” 3 แห่ง แบบฟ้าแลบ ผิดความคาดหมายของประชาคมโลกที่คาดว่า สหรัฐกับอิหร่านกำลังอยู่ในช่วงเจรจากัน โดยหลังการถล่มนี้ “ความเห็นจากนานาชาติ” ได้แตกออกเป็น “3 ทาง” ได้แก่

1. ฝ่ายที่สนับสนุนปฏิบัติการของทรัมป์ มองว่านี่เป็นวิธีที่เด็ดขาดในการยับยั้งภัยคุกคามนิวเคลียร์จากอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสันติภาพโลก

2. ฝ่ายหนึ่งที่ประท้วงมองว่า สหรัฐได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการเปิดฉากสงครามกับอิหร่านก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายวงของความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ ให้รุนแรงยิ่งขึ้น

3. ฝ่ายหนึ่งที่เหลือ ซึ่งไม่ได้เอียงข้างใดข้างหนึ่งชัดเจน ได้เรียกร้องให้สถานการณ์คลี่คลายลง และกลับเข้าสู่โหมดเจรจา เพื่อหาทางออกอย่างสันติ

สนับสนุนการถล่มอิหร่าน

- สหราชอาณาจักร เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเตือนถึง “ความเสี่ยงที่จะเกิดการขยายวง” ของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและที่อื่น ๆ อันเป็นผลจากการที่สหรัฐทิ้งระเบิดอิหร่าน แต่เขาก็ยังคง “สนับสนุน” การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเรียกร้องให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจา

- ออสเตรเลีย ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อเช้าวันจันทร์ แอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนการโจมตีของสหรัฐ โดยอิหร่าน “ไม่ควรดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติม” ที่อาจทำให้ภูมิภาคไม่มั่นคง

ประท้วงการโจมตีอิหร่าน

- จีน “ประณามอย่างรุนแรง” ต่อการที่สหรัฐเข้าโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน โดยฟู่ ชง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติกล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันอาทิตย์ว่า “จีนมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สถานการณ์จะควบคุมไม่ได้ เรียกร้องให้มีการ ‘หยุดยิงทันที’ และยุติการสู้รบ”

“ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ควรปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ยับยั้งแรงกระตุ้นที่จะใช้กำลัง และหลีกเลี่ยงการเติมเชื้อไฟให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น” ฟู่กล่าว

- เลบานอน ซึ่งมีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ผู้ทรงอิทธิพลที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และได้มีการปะทะกับอิสราเอล กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้เกิดความกลัวว่า จะมีการยกระดับความตึงเครียด ซึ่งอาจคุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพในหลายภูมิภาคและหลายประเทศ และเรียกร้องให้มีการยับยั้งชั่งใจ”

- รัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอาวุโสและอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ตั้งคำถามเมื่อวันอาทิตย์ถึงโอกาสของทรัมป์ที่จะได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ โดยกล่าวในโพสต์ทาง Telegram ว่า ผู้นำทำเนียบขาว ได้เริ่มต้นสงครามครั้งใหม่ให้กับสหรัฐแล้ว”

ด้านแถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียได้ “ประณามอย่างรุนแรง” ต่อการโจมตีทางอากาศดังกล่าว และระบุว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างร้ายแรง

ต้องการให้สงครามคลี่คลายโดยเร็ว

- ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้สถานการณ์สงบลงโดยเร็ว โดยเขากล่าวเสริมว่า “การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน จะต้องถูกยับยั้ง” 

ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้ให้การรับรองการกระทำของสหรัฐอย่างชัดเจน และระบุว่า รัฐบาลของเขาจะหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่

- สหภาพยุโรป คาจา คัลลาส นักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรป “เรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอยออกมากลับสู่โต๊ะเจรจา” และป้องกันการยกระดับความตึงเครียดต่อไป พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “อิหร่านจะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์” เธอยังกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปจะหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่านในวันนี้

- ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐ และเพิ่งฟื้นความสัมพันธ์กับอิหร่านเมื่อเดือนมีนาคม 2023 กล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณ์ในอิหร่านซึ่งเป็น “ประเทศพี่น้อง” ด้วย “ความกังวลอย่างยิ่ง”

- กาตาร์ กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์เผย กำลังติดตามสถานการณ์ในอิหร่านอย่างใกล้ชิด และรู้สึกเสียใจต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายลงจากการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหยุดยิง และกลับสู่การเจรจา



อ้างอิง: cnbcguardianeuro