ผู้เชี่ยวชาญคาด อิหร่านขนยูเรเนียมหนีไปแล้ว ก่อนสหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์

ผู้เชี่ยวชาญคาด อิหร่านขนยูเรเนียมหนีไปแล้ว ก่อนสหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์

ภาพถ่ายดาวเทียมเผยหลักฐาน สหรัฐโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในฟอร์โดว์เกิดหลุมลึก 6 จุด ยังไม่ทราบความเสียหายแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือน อิหร่านอาจขนของหนีไปฐานลับแล้ว ก่อนสหรัฐโจมตี

ภาพถ่ายดาวเทียมพาณิชย์ เผยให้เห็นร่องรอยที่สหรัฐโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านในฟอร์โดว์จนเกิดความเสียหายและมีความเป็นไปได้ที่อาจทำลายฐานที่อยู่ลงไปในใต้ดิน รวมถึงจุดที่ใช้เสริมมรรถนะยูเรเนียม แต่ยังไม่มีการยืนยันความเสียหายภายในอย่างเป็นทางการ

เดวิด อัลไบรท์ อดีตผู้ตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และเคยเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ กล่าวว่า สหรัฐเจาะทะลวงใต้ดินได้ด้วยระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์

“ผมคาดว่าโรงงานอาจพังพินาศไปแล้ว” อัลไบรท์กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญคาด อิหร่านขนยูเรเนียมหนีไปแล้ว ก่อนสหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์

อย่างไรก็ตาม เดกเคอร์ อีเวลเลธ นักวิจัยร่วมของบริษัท CNA Corporation ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายดาวเทียม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการทำลายล้างใต้ดินเกิดขึ้นจริงหรือไม่ โถงที่มีเครื่องเหวี่ยงหลายร้อยเครื่องนั้น ฝังลึกเกินกว่าที่จะประเมินระดับความเสียหายจากภาพถ่ายดาวเทียมได้

ในการป้องกันการโจมตีอิหร่านตั้งโครงการนิวเคลียร์ส่วนใหญ่ไว้ในป้อมปราการลึกลงไปในใต้ดิน รวมถึงการตั้งโรงงานในภูเขาที่ฟอร์โดว์ด้วย

ทั้งนี้ ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นหลุมความเสียหายขนาดใหญ่ 2 จุด แต่ละจุดมีรูเจาะทะลวงของระเบิด 3 หลุม รวม 6 หลุมซึ่งดูเหมือนว่า บังเกอร์บัสเตอร์จะสามารถทะลุเข้าไปในภูเขาได้ พื้นดินก็ได้รับผลกระทบและปกคลุมไปด้วยฝุ่น

ผู้เชี่ยวชาญคาด อิหร่านขนยูเรเนียมหนีไปแล้ว ก่อนสหรัฐโจมตีฐานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์

อิหร่านขนนิวเคลียร์หนีไปก่อนแล้ว?

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า อิหร่านอาจจะย้ายคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงในระดับสร้างอาวุธ ออกจากฟอร์โดว์ไปแล้ว ก่อนเกิดการโจมตีในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ และอาจซ่อนคลังเหล่านั้นและส่วนประกอบนิวเคลียร์อื่นๆ ไว้ในสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบนิวเคลียร์ของอิสราเอล สหรัฐ และยูเอ็นไม่ทราบ

บรรดาผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า ภาพถ่ายดาวเทียมจาก Maxar Technologies เผยให้เห็นกิจกรรมที่ไม่ปกติในฟอร์โดว์เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) และวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ซึ่งเผยให้เห็นยานพาหนะจำนวนหนึ่งต่อแถวยาวหน้าทางเข้าโรงงาน

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อาวุโสอิหร่านรายหนึ่งเผยกับรอยเตอร์วันอาทิตย์ว่า ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง 60% ซึ่งเป็นระดับในการสร้างอาวุธนั้น ส่วนใหญ่ถูกย้ายไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย ก่อนที่สหรัฐจะโจมตี

“ผมไม่คิดว่าจะสามารถทำอะไรได้มากนัก นอกจากทำให้โครงการนิวเคลียร์ของพวกเขาชะลอออกไปสักสองสามปี” เจฟฟรีย์ ลูอิส จากสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศมิดเดิลเบอรีในมอนเทอเรย์กล่าว และว่า “มีโรงงานบางที่ที่เราไม่รู้จักอย่างแน่นอน”

มาร์ก เคลลี วุฒิสมาชิกรัฐแอริโซนา พรรคเดโมแครต และเป็นสมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองของวุฒิสภา กล่าวว่า เขาได้ตรวจสอบข่าวกรองทุกวัน และมีความกังวลเช่นเดียวกัน

“ตอนนี้สิ่งที่ผมกลัวมากคือ พวกเขาจะนำโครงการทั้งหมดนี้ไปไว้ใต้ดิน ไม่ใช่ใต้ดินจริงๆ แต่แอบซ่อนไว้” เคลลีกล่าวกับเอ็นบีซี นิวส์ “ในขณะที่เราพยายามหยุดยั้ง อาจมีความเป็นไปได้ที่การโจมตีจะเร่งให้โครงการดำเนินไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น”

อิหร่านมีโรงงานนิวเคลียร์ลับที่ไม่มีใครรู้?

สำนักข่าวรอยเตอร์ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ 4 ราย ที่ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมฐานทัพอากาศฟอร์โดว์ของบริษัท Maxar Technologies แสดงให้เห็นหลุม 6 หลุมที่อยู่ห่างกันอย่างเป็นระเบียบในบริเวณ 2 จุดบนสันเขา ซึ่งคาดว่า ใต้หลุมดังกล่าวมีห้องเก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงตั้งอยู่

พลเอกแดน เคน ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 จำนวน 7 ลำได้ทิ้งระเบิด GBU-57/B MOP จำนวน 14 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดนำวิถีแม่นยำน้ำหนัก 30,000 ปอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทะลวงลงใต้ดินได้มากถึง 200 ฟุต หรือราว 60 เมตร เข้าไปในโรงงานใต้ดินที่แข็งแกร่งของอิหร่าน อย่างฐานทัพในฟอร์โดว์

เคนเผยว่า จากการประเมินเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโรงงานเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่ปฏิเสธที่จะคาดเดาถึงโรงงานนิวเคลียร์อื่นๆ ว่ายังคงสภาพสมบูรณ์อยู่หรือไม่

ด้านอีเวลเลธ กล่าวว่า ภาพถ่ายโรงงานในฟอร์โดว์ของ Maxar และความเห็นของพลเอกเคน แสดงให้เห็นได้ว่า B-2 ได้ทิ้งบังเกอร์บัสเตอร์ 6 ลูกลงบนฟอร์โดว์ในตอนแรก ตามด้วยการทิ้งระเบิดซ้ำลงไปอีก 6 ลูกในจุดเดียวกัน

Operation Midnight Hammer หรือ “ปฎิบัติการค้อนมัชฌิมยาม” ของสหรัฐยังได้โจมตีโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหลักของเตหะรานในเมืองนาทานซ์อีกด้วย รวมถึงในเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน และอิหร่านยังมีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์จุดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับเมืองด้วย

ขณะที่อัลไบรท์ ในโพสต์ใน X ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมของ Airbus Defence and Space แสดงให้เห็นว่า ขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์กของสหรัฐสร้างได้ความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโรงงานยูเรเนียมในอิสฟาฮาน และทำให้เกิดหลุมเหนือห้องเสริมสมรรถนะใต้ดินที่เมืองนาทานซ์ ซึ่งมีรายงานว่าเกิดจากโจมตีด้วยระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ที่ “น่าจะทำลายโรงงานดังกล่าวได้”

แต่อัลไบรท์ได้ตั้งคำถามถึงการใช้ขีปนาวุธร่อนของสหรัฐในอิสฟาฮาน โดยบอกว่า อาวุธเหล่านั้นไม่สามารถเจาะทะลุอุโมงค์ใกล้ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์หลักที่คาดว่าอยู่ลึกกว่าฟอร์โดว์ได้ แต่ไอเออีเอเผยว่าทางเข้าอุโมงค์ดังกล่าว “ได้รับผลกระทบ”

อัลไบรท์เสริมอีกว่า อิหร่านเพิ่งแจ้งไอเออีเอว่ามีแผนที่จะติดตั้งโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่ในอิสฟาฮาน

“อาจมีเครื่องหมุนเหวี่ยงอีก 2,000 ถึง 3,000 เครื่องที่อิหร่านวางแผนจะติดตั้งในโรงงานเสริมสมรรถนะแห่งใหม่” และตั้งคำถามว่า "เครื่องหมุนเหวี่ยงเหล่านั้นอยู่ที่ไหน” สื่อให้เห็นว่ายังมีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านหลายจุดที่ยังไม่มีใครทราบที่ตั้งที่แน่ชัด

 

อ้างอิง: Reuters